อัดแน่นทั้งวิชาการ-ความบันเทิง กับยอดผู้เข้าชมงานกว่า 150,000 คน กับ ”งานพันธุ์บุรีรัมย์” มหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์ที่จัดขึ้นเมื่อ 19-21 เม.ย. ที่ผ่านมา
จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับองค์กรภาคประชาชน และภาคเอกชน จัดงานเผยแพร่ความรู้ในการนำพืชกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
‘ลุงเน’ หัวหอกผู้จัดงานฯ เรียกร้องใช้ ม.44 ปลดล็อกกัญชา
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด หนึ่งในหัวหอกสำคัญในการจัดงานพันธุ์บุรีรัมย์เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดงานตั้งใจอยากทำให้คนไทยได้เข้าใจและเข้าถึงกัญชา เพื่อให้ได้เข้าใจว่ากัญชามีประโยชน์อย่างไร และกัญชาจะช่วยชีวิตของมนุษย์ได้อย่างไร ในงานมีการสัมมนาเชิงวิชาการ
“สาระสำคัญคือความเข้าใจที่จะใช้ประโยชน์ของกัญชา แน่นอนว่ากัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ แต่ถ้าใช้เป็นมันก็จะเป็นคุณมหาศาลกับคนไทยทุกคน
อดีตเราเคยผ่านบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ผมเชื่อว่าในอนาคตมันจะเป็นยิ่งกว่าบัตรทองที่ช่วยชีวิตคนไทยจากอาการบาดเจ็บ เพราะกัญชาจะช่วยทั้งรักษาโรคที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ และจะเป็นยารักษาโรค “แก้จน” ให้คนไทยทั้งประเทศ”
เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้เข้าใจและเข้าถึง…
เนวินยังกล่าวว่า สังคมส่วนใหญ่ยังยึดติดว่ากัญชาคือยาเสพติด ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง คนที่เสพกัญชามีโอกาสติดไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ในขณะที่บุหรี่ และแอลกอฮอล์มีโอกาสติดมากกว่ากัญชามหาศาล และไม่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเลย
เพราะฉะนั้นการจัดงานครั้งนี้จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจถึง “กัญชา” ในมุมมองใหม่ วิธีปลูกกัญชาและสกัดอย่างถูกวิธี
“อยากเรียกร้องให้นายกฯ ออก ม.44-ปลดล็อกให้กัญชาเสรี ให้แต่ละครอบครัวปลูกและใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ไม่เกิน 6 ต้น เป็นการเปิดเสรีแบบมีขอบเขตกติกา ชาวบ้านใช้เกณฑ์ปลูกใช้ทางการแพทย์ ส่วนภาคธุรกิจใช้อีกเกณฑ์หนึ่งที่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาล
กัญชา คือซูเปอร์ไฮเวย์ที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศแก้โรคเจ็บป่วยและแก้จนได้ ถ้าปลูกขายได้ จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้นเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน รัฐบาลมีรายได้เพิ่มตาม รัฐบาลออก ม .44 เรื่อง ทีวีดิจิทัลได้กัญชาก็ต้องออกได้”
ยอดคนยื่นครอบครองกัญชา 3 วัน แตะ 1 หมื่นคน
ภายในงานนอกจากจะมีสัมมนาวิชาการให้ความรู้แล้ว ยังมีบริการแจ้งการครอบครองกัญชาได้ภายงานนี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ มาให้บริการตลอดทั้งวัน
ผู้แจ้งครอบครองกัญชาจะต้องมีใบรับรองแพทย์ และเอกสารแสดงการครอบครองต้นกัญชา น้ำมันกัญชา
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ยอดรวม 3 วัน มีผู้ยื่นขอจดครอบครองประมาณ 10,000 คน และผ่านจดแจ้งจำนวน 4,397 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง เป็นมะเร็งมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมี หอบหืด ปวดข้อ ปวดระบบประสาท พาร์กินสัน และอีกกลุ่มไม่แสดงอาการรุนแรง เช่น โรคเครียด ไมเกรน เป็นต้น
“พันธุ์บุรีรัมย์” นับเป็นอีกหนึ่งก้าวที่น่าจับตาของประเด็น “กัญชาทางการแพทย์”
และ “เสรีกัญชา” ในประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้มากน้อยแค่ไหน…
คนในประเทศอีกไม่น้อยคงต้องเปลี่ยน “Mind set” มอง ‘กัญชา’ ใหม่…
ที่ต้องมองอย่างรอบด้านรู้ทั้ง ‘คุณ’ และ ‘โทษ’
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



