ซาฟารีเวิลด์ รายได้เท่าไร ? (วิเคราะห์) ทำไมสวนสัตว์แห่งนี้จึงถูกใจคนอินเดีย
SAFARI ยังทำรายได้ และสร้างรายได้เท่าไรกัน ข้างล่างนี้คือคำตอบ
“สวนสัตว์” สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปได้ทุกเพศทุกวัย ที่ทำให้เราย้อนวันวานกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง หนึ่งในชื่อของสวนสัตว์ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวของสัตว์ แต่ยังมีกิจกรรมสันทนาการอื่นให้ได้ร่วมชมทุกครั้ง คือซาฟารีเวิลด์
สวนสัตว์ที่มีเนื้อที่ 475 ไร่ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ แถวมีนบุรี รามอินทรา เปิดกิจการมาแล้ว 30 ปี
ขณะที่ธีมปาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากคงต้องยกให้ “ภูเก็ตแฟนตาซี” ธีมปาร์คขนาด 150 ไร่ ในจังหวัดภูเก็ต ที่เพิ่งมีอายุครบ 20 ปี เมื่อ ก.พ. ที่ผ่านมา
ทั้ง 2 แห่งเป็นของตระกูล “คิ้วคชา” ที่มีรุ่นบุกเบิกคือ “ผิน คิ้วคชา” (วงการตลาดหุ้นคงคุ้นชื่อกันดี) ปัจจุบันทายาทอย่าง “กิตติกร และ ฤทธิ์ คิ้วคชา” ได้รับไม้ต่อในกิจการเหล่านี้
เป็นที่รู้กันว่าหุ้น บริษัท ซาฟารีเวิลด์จำกัด (มหาชน) หรือ SAFARI ถูกพักการซื้อขายตั้งแต่เมื่อปี 2550 ด้วยเหตุผลด้านฐานะการเงินและการดำเนินงาน
แต่ธุรกิจซาฟารีเวิลด์และภูเก็ตแฟนตาซี ยังคงเป็นไปปกติ
และเริ่มจะเห็นแสงสว่างในการกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอีกครั้งเมื่อ SAFARI พลิกมีกำไรต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว
เหตุผลที่ทั้งซาฟารีเวิลด์-ภูเก็ตแฟนตาซี ยังทำรายได้ได้อยู่
ซาฟารีเวิลด์:
– ถึงแม้จะเคยไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนคงเคยไปไม่ต่ำกว่า 1 ครั้งเป็นแน่ ด้วยเหตุผลเบสิกความไม่เบื่อและรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไปเพราะเราจะได้เห็นอิริยาบถที่ไม่เหมือนเดิมของสัตว์ต่างๆ ซึ่งนี่แหละคือเสน่ห์ จะเห็นว่าช่วงวันหยุดบรรดาพ่อ แม่ จูงมือลูก หลาน หรือแม้แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ยังชวนกันไปเที่ยว
-ไม่เพียงเท่านั้นการเพิ่มการแสดง หรือจับจุดกลุ่มลูกค้าถูกคือคีย์เวิร์ดสำคัญ เพราะถ้าใครเคยไปซาฟารีเวิลด์ในช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นนักท่องเที่ยวชาว “อินเดีย” มาเที่ยวจำนวนมากจนน่าแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นักท่องเที่ยวอันดับ 1 น่าจะเป็นชาวจีน
แถมก่อนการแสดงโชว์สัตว์ยังมีการเปิดเพลงอินเดีย เรียกความสนุกสนานให้กับชาวอินเดียได้ไม่น้อย
ซาฟารีเวิลด์ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาซาฟารีเวิลด์ในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 6% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นสำคัญ
โดยซาฟารีเวิลด์มีรายได้จากการดำเนินงาน 1,051.12 ล้านบาท (คิดเป็นรายได้ 54.5% ของพอร์ต) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12%
ภูเก็ตแฟนตาซี:
-ธีมปาร์ควัฒนธรรม ที่สร้างสตอรี่เน้นจับลูกค้าต่างชาติอย่างคนจีนเป็นหลัก ที่ปีที่ผ่านมาอาจจะได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ และเหตุการณ์อุบัติเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของภูเก็ตแฟนตาซีลดลงอย่างมาก
โดยภูเก็ตแฟนตาซีมีรายได้จากการดำเนินงาน 878.45 ล้านบาท (คิดเป็นรายได้ 45.4% ของพอร์ต) ลดลงจากปีก่อนหน้า 12.05%
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการที่เคยหวังแต่จะพึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเดียว นับจากนี้คงต้องมองใหม่ เพราะที่มาแรง ณ ตอนนี้คือ “ตลาดอินเดีย”
สอดคล้องกับข้อมูลจาก ททท. และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ที่มองว่า “ตลาดอินเดีย” เป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ คาดว่าในปี 2020 คนอินเดียจะท่องเที่ยวไปทั่วโลกประมาณ 50 ล้านคน
และคาดว่าจะมาเที่ยวไทยแตะถึงปีละ 5 ล้านคน ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ซาฟารีเวิลด์ที่ชาวอินเดียถูกใจอยู่แล้ว กับ “ภูเก็ตแฟนตาซี” ที่ในวันนี้คงต้องหากลยุทธ์ และสิ่งใหม่ๆ มาแทนที่
ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหนก็ต้องติดตาม
ในมือ SAFARI มีบริษัทอะไรบ้าง
1. ซาฟารีเวิลด์: ธุรกิจท่องเที่ยวประเภทสวนสัตว์
2. ภูเก็ตแฟนตาซี: ธุรกิจท่องเที่ยวประเภทธีมปาร์คเชิงวัฒนธรรม
3. คาร์นิวัล เมจิก: ธุรกิจท่องเที่ยวประเภทธีมปาร์ค เน้นการแสดง แสง สี เสียง
(อยู่ระหว่างก่อสร้าง เปิดให้บริการปลายปี 2562)
4. ซาฟารี ไวลด์ไลฟ์ ปาร์ค: ธุรกิจท่องเที่ยว สถานที่ประชุม สัมมนา ศูนย์พัฒนาขยายพันธุ์สัตว์เพื่อจำหน่าย
(ยังไม่ได้เริ่มดำเนินกิจการ)
ที่มา: รายงานประจำปี 2561ซาฟารีเวิลด์
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ