อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์เตรียมขาย IPO ไตรมาส 3/62 วางแผนขยายสาขา ติดตั้งแผงโซลาร์ ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน และชำระเงินกู้ยืม เผยรายได้จากการขายปี 61 ที่ 9,174 ล้าน ปี 60 ทำได้ 8,908.3 ล้าน เผยรายได้หลักมาจากค้าปลีกแบรนด์ Index living Mall 

กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่าอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา และล่าสุดบริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ... ภายใต้ชื่อ ILM

จุดประสงค์หลักของการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนขยายสาขาร้าน Index Living Mall ขยายสินค้าเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด Younique ขยายร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก ทำโครงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟทอป (Solar Rooftop) เพื่อลดต้นทุนค่าไฟประจำสาขา ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน ชำระเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,525.0 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 505.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 5.00 บาท ซึ่งเป็นทุนชำระแล้วจำนวน 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 400 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญแก่ประชาชน (IPO) ไม่เกิน 105.0 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.79%

โดยจะเริ่มวางขายสู่สาธารณะในช่วงไตรมาส 3/62

เอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ กล่าวว่า ปัจจุบัน Index Living Mall และ Index Furniture Center มีจำนวนทั้งหมด 36 สาขา ครอบคลุมกว่า 21 จังหวัดทั่วประเทศ และบริษัทยังมีธุรกิจให้เช่าและบริการพื้นที่เช่า ภายใต้แบรนด์ The Walk, Little Walk และ Index Mall จำนวน 9 สาขา รวมถึงมีการส่งออกสินค้าและขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังต่างประเทศ

สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทมีเครือข่ายร้านค้าปลีกผ่านรูปแบบตัวแทนจำหน่ายและแฟรนไชส์จำนวน 17 ร้านค้า ใน 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย 3 ร้าน, กัมพูชา 2 ร้าน, เนปาล 2 ร้าน, ปากีสถาน 4 ร้าน, มัลดีฟส์ 1 ร้าน, ลาว 1 ร้าน และเมียนมา 4 ร้านค้า

ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ที่ 9,658 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย 9,174 ล้านบาท (ปี 2560 ทำได้ 8,908.3 ล้านบาท) และรายได้จากการให้บริการ 484 ล้านบาท

โดยรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก 77% งานโครงการ 12.3% รายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่า 4.3% และอื่นๆ 6.3% ทั้งนี้ รายได้หลักจากกลุ่มค้าปลีกมากกว่า 98% เป็นรายได้จากการขายผ่าน Index Living Mall และ Index Furniture Center

ทั้งนี้ ในปี 2561 ตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 18%

ธุรกิจในเครือ Index Living Mall (ILM)

กลุ่มค้าปลีกและของตกแต่งบ้าน

(1) Index Living Mall

กลุ่มลูกค้า: อายุ 25-50 ปี/รายได้ปานกลางถึงปานกลางค่อนข้างสูง (Mass – Premium)

กลุ่มสินค้า: สินค้าเรียบง่าย ปรับแต่งตามความต้องการ

ที่ตั้งและสาขา: หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศทั้งหมด 36 สาขา (Index Furniture Center 6 สาขา)

ขนาดพื้นที่: 3,528-18,497 ตร..

(2) TrendDesign

กลุ่มลูกค้า: อายุ 35-50 ปี/รายได้ปานกลางสูง (Premium Mass-Premium)

กลุ่มสินค้า: เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศ แนวคิด Italian Modern

ที่ตั้งและสาขา: กรุงเทพฯ (สาขาบางนาและเกษตรนวมินทร์) พัทยา และภูเก็ต ทั้งหมด 4 สาขา

ขนาดพื้นที่: 240-520 ตร..

(3) BoConcept

กลุ่มลูกค้า: อายุ 35-50 ปี/รายได้สูง (Premium)

กลุ่มสินค้า: เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านนำเข้าสไตล์เดนิช ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า

ที่ตั้งและสาขา: กรุงเทพฯ และพัทยา/1 สาขาใน Paragon และ 1 สาขาใน Index Living Mall

ขนาดพื้นที่: 380-464 ตร..

(4) Momentous

กลุ่มลูกค้า: อายุ 35-50 ปี / รายได้ Ultra Luxury

กลุ่มสินค้า: เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านนำเข้าสไตล์อเมริกันลักชัวรี

ที่ตั้งและสาขา: กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ทั้งหมด 3 สาขา (1 สาขาใน Paragon และ 2 สาขาใน Index Living Mall)

ขนาดพื้นที่: 140-436 ตร..

กลุ่มให้บริการพื้นที่ให้เช่า

(1) The Walk

3 แห่ง ได้แก่ ราชพฤกษ์ เกษตรนวมินทร์ และนครสวรรค์

อัตราการเช่า 79.6%, 73.5% และ 100.0% ตามลำดับ

(2) Little Walk

2 แห่ง ได้แก่ บางนา และพัทยา

อัตราการเช่า 99.7% และ 68.7%

(3) Index Mall

4 แห่ง ได้แก่ พระราม 2 ชัยพฤกษ์ บางใหญ่ และบางนา

อัตราการเช่า 61.0%, 76.2%, 45.0% และ 40.4%

(4) พื้นที่ให้เช่าภายใน Index Living Mall

11 สาขา, อัตราการเช่า 77.1%



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online