ไลน์ LINE ความสำเร็จที่ต้องไปต่อ (วิเคราะห์) กลยุทธ์ LINE ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

LINE CONVERGE THAILAND2019 งานแถลงเพื่อฉายภาพกลยุทธ์และแนวทางธุรกิจของ LINE ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “LIFE ON LINE” พร้อมด้วยการอัพเดตความคืบหน้าของโซลูชั่นใหม่ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ นับเป็นการแถลงครั้งใหญ่หลังจากที่ปรับทัพแต่งตั้ง “ดร.พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา” เป็น CEO คนใหม่ พร้อมปรับทีมผู้บริหารระดับสูงไปเมื่อ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา

ฟีเจอร์และโซลูชั่นใหม่ที่ไลน์จะออกมาให้บริการนั้นเรียกได้ว่า เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว เพราะไลน์ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่ “โครงสร้างพื้นฐานชีวิต” หรือ “Life of LINE” สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำของทุกคน

อึนจอง ลี รองประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลก LINE คอร์ปอเรชั่น เปิดเผย 3 กลยุทธ์สำคัญที่ต้องการตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยไลน์ไม่ได้เป็นเพียงแอปพลิเคชั่นแชทเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีบริการครอบคลุมทั้งวงจร อาทิ LINE PLAY, LINE TODAY, LINE MAN, LINE JOBS รวมถึงบริการยอดนิยม อาทิ LINE Stickers, Rabbit LINE Pay และ LINE Biz-Solution

1. OMO (online-merge-offline) ที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจไทยได้อย่างแท้จริง โดยได้เปิดตัว LINE Mini App ระบบที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้บริการเต็มรูปแบบจากแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ผ่าน LINE ได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องออกจาก LINE และแบรนด์เองก็ยังคงรูปแบบบริการของตนเองได้ตามที่ต้องการ

2. Fintech-ที่เป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด โดยไลน์มีธุรกิจ Rabbit LINE Pay ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 6 ล้านคน มีผู้ผูกบัญชีบัตรเดบิต/เครดิต 4 ล้านใบ และผูกกับ e-wallet 5 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ KBANK เพื่อปฏิวัติการบริการทางการเงินในชื่อ KASIKORN LINE เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงสภาพการเงินของตัวเอง และเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็น โดยจะให้บริการในปี 2563

3. AI-LINE จะยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI ขั้นสูงเพื่อนำไปใช้ในการบริการที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น การนำ AI มาช่วยในฟีเจอร์สำหรับการแนะนำบริการแบบเฉพาะบุคคลในการค้นหาการใช้บริการ LINE TV, Sticker Shop, โฆษณา และอื่นๆ

นอกจากนี้ ไลน์เพิ่งเปิดตัว ‘Smart Channel’ ซึ่งเป็นพื้นที่โฆษณาที่อยู่ด้านบนของหน้า Chat List เพื่อให้นักการตลาดสามารถส่งข้อความโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม

สำหรับ ไลน์ ประเทศไทย ผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ที่จะมีการเปิดตัวภายในปี 2562 นี้มีด้วยกันทั้ง 4 อย่าง

Marketeer ชวนวิเคราะห์ว่าสิ่งใหม่ที่ออกมาให้ได้เห็นในเดือน ส.ค. นี้ อันไหนจะเวิร์ค หรือไม่เวิร์ค

1. LINE Shopping-บริการรูปแบบใหม่ที่รวมแหล่งออนไลน์ช้อปปิ้งไว้ในที่เดียว

มองว่า LINE Shopping ช่วยแก้ pain point ของลูกค้าในการตามหาข้อมูลที่มีมากจนเกินไป เพราะในฟีเจอร์นี้สามารถเปรียบเทียบราคาได้โดยตรงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ แถมยังจูงใจลูกค้าด้วยการให้พอยต์ และส่วนลดพิเศษที่ซื้อของผ่านไลน์

แต่จุดด้อยคือ สินค้าที่อยู่ในฟีเจอร์นี้อาจจะไม่ครอบคลุมทุกประเภท และก็ยังเชื่อว่าผู้บริโภคยังคงต้องการซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มโดยตรงมากกว่า

2. LINE MAN-จะขยายการบริการให้ครอบคลุมพื้นที่หัวเมืองใหญ่ของประเทศไทยภายในปี 2563 และยังเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Wongnai และ Lalamove

มองว่าการขยายพื้นที่บริการของไลน์แมนนั้นดีต่อผู้บริโภค ที่ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกใหม่ในการเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่มากขึ้น

แต่สิ่งที่ทำให้ตอนนี้ไลน์แมนยังสู้เจ้าอื่นไม่ได้ คือเรื่องของ ‘ค่าบริการ’ ที่ยังสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นอยู่มาก

3. LINE MAN Grocery-อันนี้ดูเหมือนจะเวิร์คเพราะตอบโจทย์ของผู้คนในยุคสมัยปัจจุบันที่ทุกคนจะสามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเป้าหมายในการประหยัดเวลาที่ต้องเสียไปกับการเดินทางผ่าน LINE MAN Grocery

นอกจากนี้ ยังมีข้อดีของ LINE MAN ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถปฏิเสธการรับพลาสติกที่ไม่จำเป็น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก

4. LINE MELODY ที่ดูจะแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นมากที่สุดใน 4 อย่างนี้ เพราะไลน์พาผู้ใช้ย้อนกลับไปในยุค’90 ยุคที่เสียงรอสายได้รับความนิยมมาก

โดยฟีเจอร์ที่จะออกใหม่แล้วใช้ใน LINE Call นี้ผู้ใช้งานจะสามารถนำเอาเพลงยอดนิยมมาใช้เป็นริงโทน หรือเพลงรอสายได้ มองว่าฟีเจอร์น่าจะสร้างความสนุกและเพิ่มอารมณ์ให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้ไม่น้อย