“พฤกษา” เปิดผลประกอบการครึ่งปี 62 กำไรเพิ่ม 8% แต่ยอดขายลด 4.1% เผยไตรมาส 2 สุดเลวร้าย รายได้ทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ ลด ปรับลดโครงการเปิดใหม่ทั้งปีเหลือ 40 โครงการ เชื่อหลังจากนี้ตลาดฟื้น
สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม 19,962 ล้านบาท เติบโต 3% กำไร 3,618 ล้านบาท เติบโต 8% มียอดขาย 23,368 ล้านบาท เติบโตลดลง 4.1% และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 36,938 ล้านบาท
รายได้ ‘ครึ่งปีแรก’ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า ทาวน์เฮาส์เติบโตลดลง 11.5% บ้านเดี่ยวลดลง 13.3% คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 50.5% คอนโด-แวลู เพิ่มขึ้น 6.2%
ขณะที่รายได้ ‘ไตรมาส 2’ (YoY) ตามเซกเมนต์ พบว่า ทาวน์เฮาส์เติบโตลดลง 36.7% บ้านเดี่ยวลดลง 34.1% คอนโดมิเนียมลดลง 5.5% คอนโด-แวลู ลดลง 23.7%
สุพัตรากล่าวอีกว่า ปัจจัยลบของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 คือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มาตรการ LTV และค่าเงิน ส่วนปัจจัยในประเทศคือภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ภัยแล้ง และนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่อาจมีการปรับเพิ่มขึ้น
บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงานโดยปรับลดการเปิดตัวโครงการใหม่จาก 55 โครงการ มูลค่า 68,100 ล้านบาท เหลือ 40 โครงการ มูลค่า 47,444 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 50,000 ล้านบาท และรายได้ 45,000 ล้านบาท
“ไตรมาส 2 เป็นไตรมาสที่เราคิดว่าหนักที่สุด โหดสุด แต่เราก็ผ่านมาด้วยดี ไตรมาสอื่นก็ไม่ง่าย แต่ไม่คิดว่าจะเลวร้ายไปกว่าไตรมาส 2 แล้ว” สุพัตรากล่าว
ขณะที่ไตรมาส 2 บริษัทเปิดตัวทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่า 14,177 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ มูลค่า 3,975 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 3,709 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 6,493 ล้านบาท
แต่มี 2 โครงการที่บริษัทมองว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้แก่
(1) “บ้านพฤกษา สุขุมวิท-บางปู” ซึ่งสามารถทำลายสถิติยอดขายบ้านแนวราบของพฤกษาได้ และเป็นยอดขายสูงสุดในตลาดอสังหาฯ แนวราบ ด้วยการทำยอดขาย 810 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 วัน
และ (2) โครงการคอนโดมิเนียม “แชปเตอร์ เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์” ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์จนสามารถปิดการขาย รวมมูลค่ากว่า 4,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/62 บริษัทมียอดขาย 12,277 ล้านบาท เติบโต 5.1% (YoY) และมีรายได้อยู่ที่ 7,781 ล้านบาท เติบโตลดลง 28.1% (YoY)
สำหรับแผนในช่วงครึ่งปีหลัง สุพัตราให้ข้อมูลว่า บริษัทจะเน้นการหาเรียลดีมานด์รายพื้นที่ และจะเลือกทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อ เพื่อปรับแผนการดำเนินงานให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน
ส่วนกลยุทธ์อีก 4 ด้านที่บริษัทจะทำควบคู่กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมองหากลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง ได้แก่ (1) พัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าสินค้าแมส (2) ทำการตลาดออนไลน์ (3) ใช้ Channels & Data Science ช่วยขับเคลื่อนการขาย และ (4) บริหารจัดการต้นทุน (COGS and SG&A)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทจะเปิดตัวอีก 18 โครงการ มูลค่ารวม 18,683 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์เฮาส์ถึง 11 โครงการ และไตรมาส 4 เปิดตัวอีก 8 โครงการ มูลค่ารวม 8,269 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ
เนื่องจากสุพัตรามองว่าเซกเมนต์ที่ยังมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง คือกลุ่มทาวน์เฮาส์ ขณะที่กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมระดับราคาล่างได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ดังนั้น การพัฒนาคอนโดฯ ของบริษัทจะเน้นไปที่การจับตลาดกลางถึงระดับบนมากยิ่งขึ้น
สรุป ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครึ่งปีแรก
มูลค่า 200,605 ล้านบาท เติบโตลดลง 13% (YoY)
มูลค่าโอน 141,360 ล้านบาท เติบโต 7% (YoY)
– คอนโดมิเนียม เพิ่มขึ้น 1%
– บ้านเดี่ยว บ้านแฝด เพิ่มขึ้น 15%
– ทาวน์เฮาส์ เพิ่มขึ้น 11%
จำนวน 51,865 ยูนิต เติบโตลดลง 11% (YoY)
จำนวนสินค้าคงเหลือ 195,641 ยูนิต เติบโตลดลง 16% (YoY)
ที่มา: Strategy & New Business Development
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ