นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมความงาม AIC หนึ่งในผู้ที่นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่วงการความงามในระดับเอเชียแปซิฟิก อาทิ การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มปลายทู่ และการฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูก และในด้านการลงทุนเอง นพ. พุฒิพงศ์ ถือเป็นนักลงทุนท่านหนึ่งที่ติดตามกระแสนวัตกรรมทางการเงิน โดยได้เข้ามาศึกษาอย่างจริงจังในเรื่องสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin

 

เนื่องจากกระแสความตื่นตัวเรื่องการลงทุนในบิทคอยน์ (Bitcoin) ต้นแบบของสกุลเงินดิจิทัลในปัจจุบัน กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจัดได้ว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนประเภทอื่น โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่ได้รู้จักบิทคอยน์เมื่อหลายปีที่ผ่านมาและได้คาดการณ์เอาไว้ว่าบิทคอยน์จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต จนทำให้กลายเป็นเศรษฐีได้ในระยะเวลาอันสั้น

ด้วยเหตุนี้เองนักลงทุนหลายรายหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน ทำให้กลายเป็นเหยื่อในตลาดการลงทุนประเภทนี้ไปโดยปริยาย ซึ่ง นพ. พุฒิพงศ์ ให้ข้อมูลถึงประเด็นนี้ว่า “การลงทุนยิ่งมีผลตอบแทนสูง ยิ่งมีความเสี่ยงที่สูงกว่า จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการการลงทุน ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่แต่เดิมได้มีการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อได้ยินถึงกระแสการลงทุนเกี่ยวกับเงินดิจิทัลก็มีความสนใจเป็นอย่างมาก และใช้เวลาอยู่หลายปีในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเงินดิจิทัลจากหลากหลายช่องทาง ทำให้ได้มีโอกาสได้เห็นทั้งคนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จและคนที่ลงทุนแล้วล้มเหลว ในตอนเริ่มแรกที่ยังไม่แน่ใจได้ทดลองลงทุนไปไม่มากนัก เนื่องจากเห็นว่าเป็นค่าวิชาความอยากลองอยากรู้”

“การลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลค่อนข้างจะมีความเสี่ยงสูงและมีรูปแบบลงทุนได้ถึง 3 รูปแบบ คือ การซื้อขาย (Trading) การขุด (Mining) และการลงทุนในเหรียญที่ออกใหม่ (ICO) ซึ่งหากยังเป็นมือใหม่ต้องการที่จะเข้ามาทดลองลงทุน ควรเริ่มต้นศึกษาในส่วนของการซื้อขายก่อน เพราะจะทำให้ได้เห็นภาพของตลาดได้ง่าย ซึ่งแนะนำว่าผู้ที่มาลงทุนในตลาดนี้ควรใช้เงินเย็น ควรทดลองลงทุนไม่เกิน 3-5% ของพอร์ต และที่สำคัญ ควรคำนึงถึงแหล่งที่มาของเงินทุนของตัวเอง ถ้าจะให้ดีควรจะเป็นวัยทำงานที่มีรายได้สม่ำเสมอ เพราะสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่รายได้ในอนาคตไม่แน่นอนหรืออยู่ในวัยใกล้เกษียร ไม่มีรายได้ในอนาคตแล้ว เพราะจะหาเงินในอนาคตได้ยาก หากนำเงินเก็บไปลงทุนเกี่ยวกับเงินดิจิทัลก็จะทำให้ต้องรับความเสี่ยงมาก และอาจเกิดผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวได้” นพ. พุฒิพงศ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ กระแสความสนใจของสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการเคลื่อนไหวด้วยการออกจดหมาย ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหรือให้คำแนะนำปรึกษาลูกค้า ทั้งในส่วนของกลุ่มนักลงทุนก็มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายแหล่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสื่อมวลชนก็หันมาสนใจประเด็นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามทิศทางของสกุลเงินดิจิทัลก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมาก มีทั้งโอกาสและความเสี่ยงสูง ดังนั้น สำหรับคนที่ชอบลงทุนจึงแนะนำให้พิจารณาหาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อน สำหรับคนที่ชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆ เชื่อว่าการศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมเปลี่ยนโลกชิ้นนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าจับตามอง ส่วนคนที่ยังรู้สึกกลัวการเปลี่ยนแปลงก็อาจจะต้องลองเปิดใจใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติมเช่นกัน และต้องเข้าใจว่าโลกของเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งคาดหวังว่าปีนี้เราจะมองเห็นอนาคตของนวัตกรรมใหม่นี้ได้อย่างชัดเจนขึ้น รวมถึงระบบไร้ศูนย์กลางก็คาดหวังว่าจะมีการพัฒนาต่อยอดและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวงการอื่นๆ ต่อไปได้

 


อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online