ตอนเขียนบทความนี้ ผมอยู่ที่ บาหลี ประเทศอินโดนีเซียครับ เมืองที่ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ยังทำให้หลงเสน่ห์ได้เสมอ เพราะที่นี่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ  ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายชายทะเล ธรรมชาติเขียวชอุ่ม และศิลปวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์

ซึ่งถ้าถามผมว่าแท้จริงแล้วอะไรคือเสน่ห์ของเมืองท่องเที่ยวอย่างบาหลี จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางมาที่นี่ ผมคิดว่า “ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง”ครับ

ทั้งสถาปัตยกรรม โบราณสถาน สปา การร่ายรำ อาหาร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว่าประเทศไหนๆ ซึ่งแม้แต่ในประเทศอินโดนีเซียเองก็ไม่สามารถหาได้

และความมีเอกลักษณ์ฉบับบาหลี นี่แหละครับ เป็นแม่เหล็กชั้นดีที่ดึงดูดคนทั้งโลกมาท่องเที่ยวในเกาะแห่งนี้กัน

 “ บาหลี ” ก็เป็นเหมือนส่วนผสมระหว่างเชียงใหม่กับภูเก็ต

เป็นสถานที่ที่มีทั้งความสวยงามทางธรรมชาติผสมผสานกันอย่างลงตัวกับศิลปวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร มีทุ่งนาข้าวแบบขั้นบันไดที่ได้เห็นวิวเขียวชอุ่มแบบพาโนรามา มี Monkey Forest เดินเข้าป่าไปเจอกับฝูงลิง มีกิจกรรมทางทะเลครบครันความสนุกทั้งดำน้ำ ล่องเรือ เล่นกระดานโต้คลื่น มีวัดเก่าแก่แต่สวยงามที่สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้าต่างๆ

ซึ่งสถาปัตยกรรม โบราณสถานส่วนใหญ่ในบาหลีจะเป็นงานอิฐ งานปูน มีเอกลักษณ์ชัดเจน แบบที่ดูปุ๊บก็รู้เลยว่าตอนนี้อยู่ที่บาหลี

และไฮไลท์เลยคือ สปาสไตล์บาหลีที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาลองสักครั้ง แต่ถึงแม้ว่าจุดขายของบาหลีคือความเก่าแก่คลาสสิค เขาก็ยังให้ความสำคัญกับการอำนวย ความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งในแง่ของที่พักที่มีให้เลือกหลายระดับ และค่าครองชีพที่จัดว่าไม่แพงจนเกินไป    

วัฒนธรรม บาหลี

ที่สำคัญ บาหลีเพิ่งทำสนามบินใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวปีหนึ่งเป็น 10 ล้านคนสบายๆ   

จริงๆ แล้ว การที่จะทำให้เมืองของเราเป็นเมืองท่องเที่ยว เรื่องการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การเดินทาง อาหารการกิน หรือแม้แต่ห้องน้ำ นั้นเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว

บางทีโรงแรมหรือร้านอาหารต่างๆ ก็ไปโฟกัสที่การตกแต่งเสียหมด ไม่ว่าจะตกแต่งร้าน หรือสรรหาถ้วยชามสวยหรู แต่ดันลืมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แขกที่มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำที่น่าใช้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกจำนวนที่มากพอ และที่สำคัญที่สุดคือ ความสะอาด

เหมือนเวลาไปญี่ปุ่นที่เวลาเข้าห้องน้ำเราจะสบายใจได้เลยว่าสะอาด เพราะญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความสะอาดพอๆ กับความทันสมัย แตกต่างกับประเทศจีนที่ต้องทำใจดีๆ ก่อนเลยเวลาจะเข้าห้องน้ำแต่ละที

หลายคนที่ทำธุรกิจชอบมองว่าต้องหาอะไรที่มันแปลกใหม่ สร้างสีสันไว้ก่อน แต่จริงๆแล้ว ผมว่าความดั้งเดิมของเราต่างหากล่ะครับคือ เสน่ห์ที่แตกต่าง และมันเป็นสิ่งที่เราน่าจะนำมาต่อยอด เพียงแต่เราต้องไม่มองข้ามเรื่องการอำนวยความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่จะมาใช้บริการต่างๆ เท่านั้นเอง เหมือนกับบาหลีที่เขาใช้ความดั้งเดิมเป็นจุดขายให้คนมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ แต่ก็ไม่ลืมที่จะอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวด้วย

ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ผมกำลังจะมีงานวิ่งมาราธอนที่บาหลี ชื่องานว่า “KILORUN BALI (กิโลรัน บาหลี)” ซึ่งคำว่า “Kilo” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ‘กิโลเมตร’อย่างเดียว แต่หมายถึง ‘กิโลกรัม’ ด้วย เราจัดงาน 2 วัน โดยที่วันแรกเราจะให้ทานอาหารอร่อยของบาหลีกัน แล้วเดินชมเมืองสวยๆ วิ่งเสร็จกลับมาชั่งน้ำหนัก ใครน้ำหนักขึ้นตามเป้าก็รับเหรียญทานเก่งไปเลย แล้ววันที่สองเราค่อยมาวิ่งมาราธอนกับแบบจริงจัง จะไปกับครอบครัวหรือแก๊งค์เพื่อนก็สนุก ใครที่สนใจไปวิ่ง กิน เที่ยวด้วยกัน ก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook @KILORUN ได้เลยครับ แล้วเตรียมไปรับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่บาหลีมีด้วยกันนะครับ 2-3 มิถุนายนนี้

cr.ภาพ FB: ไปไงมาไง/Index Creative Village

อ่านคอนเทนต์การตลาด อ่าน MarketeerOnline

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

Creativity in AEC

เมฆ-เกรียงไกร กาญจนะโภคิน



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online