ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีจำนวนผู้เปิดบัญชีมากกว่า 10 ล้านบัญชี ซึ่งมีผู้ใช้งาน K Mobile Banking ถึง 5 ล้านคน เติบโตขึ้นปีละกว่า 50% เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนที่มีผู้ใช้งานเพียง 2 ล้านคน กสิกรไทยยังเผยถึงจำนวนรายการการใช้งาน K PLUS ใน 1 ปีมีมากถึง 1,700 ล้านรายการ มีเงินสะพัดถึง 4 ล้านล้านบาท โดยในปีนี้กสิกรไทยได้ตั้งเป้าผู้ใช้งานไว้ที่ 7 ล้านคน ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนถึงเกือบ 50%

 

K PLUS เปลี่ยนทุกเรื่องให้เป็นเรื่องง่าย

พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดเผยถึงการเปลี่ยนสู่ K PLUS ดังนี้ “ปัจจุบันแนวโน้มลูกค้าที่หันมาใช้บริการโมบาย แบงกิ้ง มีจำนวนมากขึ้น และเป็นช่องทางทำธุรกรรมกางการเงินอันดับหนึ่ง โดยมีจำนวนบัญชีผู้ใช้ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยในปี 2559 เติบโตขึ้น 50% สอดคล้องกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ “ดิจิทัล โมบิลิตี้” ของคนในปัจจุบันที่ไม่อยู่นิ่ง ต้องการความสะดวกและจัดการทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองผ่านสมาร์ทโฟน ประกอบกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปิดรับการใช้งานและพบว่ารายการใช้งานต่าง ๆ สามารถช่วยบริหารจัดการการเงินให้สะดวกและง่ายมากขึ้น

ธนาคารกสิกรไทยยังคงตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านดิจิทัล แบงกิ้งอย่างต่อเนื่อง จึงเร่งพัฒนานวัตกรรมบริการด้านดิจิทัลให้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโมบาย แบงกิ้ง ที่ได้ก้าวมาเป็นช่องทางอันดับ 1 ในการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้าจะเน้นสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้น” ทำให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่ายตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าจบทุกความต้องการด้านการเงินได้บนสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลขั้นสูง

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้รีแบรนดิ้งแอพพลิเคชั่นธนาคารบนมือถืออันดับ 1 โดยเปลี่ยนชื่อและโลโก้ของ K-Mobile Banking PLUS ใหม่ให้ง่ายต่อการจดจำเป็น K PLUS ซึ่งปัจจุบัน ในไตรมาส 1 ปี 2560 มียอดผู้ใช้แล้วกว่า 5 ล้านคน เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 65% และเป็นผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอถึง 80% โดยมีจำนวนการทำธุรกรรมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน

นอกจากความง่ายในการใช้งานแอพฯ แล้ว ยังเพิ่มความสะดวกที่ทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้แก่

การขอออกบัตรเดบิตผ่าน K PLUS แล้วรอรับบัตรได้เลยที่บ้านภายใน 7 วัน

ซื้อประกันเดินทางระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนเพิ่มลักษณะการใช้งานที่ให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องไปที่สาขา เช่น การเปิดบัญชีกองทุน ซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุน อายัดบัตรเครดิต โอนเงินต่างประเทศ การขอรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 2 ปีได้ทันที ซึ่งคาดว่ารายการใช้งานเหล่านี้จะทำให้มีผู้ใช้งานธนาคารบนมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคนในสิ้นปีนี้

K PLUS SME อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ

สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ หรือเอสเอ็มอี  ธนาคารได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนมือถือ K PLUS SME เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง เนื่องจากในปัจจุบันปัญหาของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ คือ มีความต้องการตรวจสอบยอดเงินเข้าออกบัญชีเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเงินที่เข้ามาจากการโอนเงินหรือการรับจ่ายเช็ค โดยเฉพาะเรื่องเช็คคืนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพราะต้องการรักษาเครดิตกับคู่ค้า ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีแอพพลิเคชั่นไหนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ ธนาคารจึงได้พัฒนาช่องทางการทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจที่สามารถใช้ได้ทั้งบัญชีบุคคลธรรมดา บัญชีร่วม  และบัญชีนิติบุคคล อีกทั้งยังสามารถเพิ่มบัญชีได้สูงสุดถึง 25 บัญชี ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริหารจัดการธุรกิจได้ด้วยตนเองอย่างสะดวก รวดเร็ว มีฟีเจอร์สำคัญที่แตกต่างจากแอพพลิเคชั่นอื่น ๆในตลาด ทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารเงินและธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ เช่น การจัดการกลุ่มบัญชีเพื่อดูภาพรวมของแต่ละธุรกิจได้อย่างง่ายดาย การตรวจสอบสถานะเช็คทั้งขารับและขาจ่าย พร้อมการแจ้งเตือนในกรณีที่เช็คมีปัญหา มีรายงานสินเชื่อที่จะรวบรวมข้อมูลรายงานสินเชื่อทุกประเภท ทั้งโอดี ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินกู้ หรือหนังสือค้ำประกัน รวมถึงสามารถดูการเคลื่อนไหวบัญชีแบบเรียลไทม์เพื่อช่วยให้ชีวิตธุรกิจง่ายขึ้นอย่างแท้จริง



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online