หากพูดถึงแบรนด์สุราไทย แบรนด์แม่โขง คงเป็น Top of Mind ในใจของหลาย ๆ คน เพราะไม่ใช่แค่เอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ด้วยประวัติศาสตร์ความเป็น The Spirit of Thailand ยาวนานมากว่า 7 ทศวรรษจึงทำให้แม่โขงได้รับความนิยมจากคนไทยมาในทุกยุคทุกสมัย
และเพื่อประกาศอีกหนึ่งความเป็นไทยให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวต่างชาติ MICHELIN Guide Bangkok 2018 Award Ceremony and Gala Dinner ที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อวันที่ 6 ธันวามคมนี้ แม่โขงจึงได้ส่งค็อกเทลที่ผสมวัฒนธรรม มนต์เสน่ห์ และเรื่องราวต่าง ๆ ของประเทศเรา ให้กับผู้เข้าร่วมงานชาวไทย และโดยเฉพาะกับชาวต่างชาติให้ได้ลิ้มลองกัน
และจากการคัดเลือกค็อกเทลทั้ง 9 สูตรที่ mixologist ได้รังสรรค์กันอย่างเต็มที่เพื่องานนี้ ขุนศึกและทองคือสองสูตรค็อกเทลที่ได้รับคัดเลือกเพื่อเสิร์ฟให้กับแขกเหรื่อในงานที่ใช้เกณฑ์ของรสชาติ ความคิดสร้างสรรค์ หน้าตาของเครื่องดื่ม และการผสมเรื่องราวของความเป็นไทยได้อย่างลงตัวเป็นตัวตัดสิน
โดย นันทวิชย์ สามีภักดิ์ mixologist จากร้านบ้านสุริยาศัย ผู้รังสรรค์ค็อกเทล “ขุนศึก” ได้พูดถึงแรงบรรดาลใจของเครื่องดื่มสูตรนี้ไว้ว่า
“ได้รับแรงบันดาลใจจากการดื่มน้ำจัณฑ์ของขุนศึกไทยในสมัยโบราณเพื่อสร้างความฮึกเหิมก่อนออกรบเครื่องดื่มแสดงออกถึงรสชาติที่ห้าวหาญนำเสนอถึงจิตวิญญาณที่กล้าหาญของขุนศึกไทยผมรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่จะได้เป็นหนึ่งตัวแทนคนไทยได้ทำเครื่องดื่มจากสปิริตแบรนด์ไทยแท้ให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลองผมเชื่อว่าความสามารถของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ”
และ ชัยสิทธิ์ ประทุมสูตร mixologist จากร้านเทพฯ บาร์ ผู้รังสรรค์ค็อกเทล “ทอง” ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของค็อกเทลว่า“ทองได้รับแรงบันดาลใจจากยุคทองของไทยซึ่งมีทั้งความอุดมสมบูรณ์ความมั่งคั่งอาหารที่ครบครันวัฒนธรรมที่สวยงามและภูมิปัญญาไทยส่วนผสมหลักของค็อกเทลคือมะม่วงสุกซึ่งเป็นผลไม้ไทยที่ชาวต่างชาติชอบรับประทานนอกจากนั้นยังมีน้ำตาลมะพร้าวน้ำผึ้งเดือนห้าซึ่งล้วนเป็นส่วนผสมที่มีความพรีเมี่ยมและเป็นที่มาของสีทองอร่ามอันเลอค่าของค็อกเทลชนิดนี้”
นอกจากขุนศึกและทองแล้ว ทางแบรนด์แม่โขงเองก็ยังได้นำเสนอความเป็นไทยในมุมมองของตัวเองผ่านค็อกเทลที่ใช้ชื่อว่า “แม่โขงไทยสบาย”ซึ่งเป็นค็อกเทลที่สื่อถึงความสบายๆมีน้ำใจยิ้มแย้มและเป็นมิตรของคนไทยที่จะเสิร์ฟพร้อมกับเมนูอาหารของเชฟคนไทยให้แขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลองรสชาติอีกด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าภูมิใจ ที่สามารถนำเรื่องราวของแบรนด์ มาบวกกับความเป็นไทย ผสมคนกันจนนำเสนอสู่สายตาชาวโลกได้อย่างกลมกล่อม ซึ่งชาวโลกที่ว่านี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารการกิน อย่าง เกล แวนฮูว หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นถึง Vice President of MICHELIN EXPERIENCES for East Asia and Australia ยังได้พูดถึงค็อกเทลที่สื่อถึงความเป็นไทยนี้เอาไว้ด้วยว่า
“ดิฉันรู้สึกประทับใจมากในความร่วมมือร่วมใจของคนไทยที่ได้ร่วมกันคัดสรรเครื่องดื่มค็อกเทลสัญชาติไทยที่แสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์และความงดงามของวัฒนธรรมไทยในฐานะตัวแทนของมิชลิน ไกด์ เรารู้สึกดีใจที่จะได้จัดงานประกาศรางวัลมิชลินสตาร์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารไทยได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลกเพราะมีรสชาติที่โดดเด่น
ดังนั้นการมาประเทศไทยของมิชลินไกด์จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดดิฉันหวังว่านอกจากอาหารไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้วในอนาคตเครื่องดื่มจากฝีมือคนไทยก็จะได้รับการยอมรับในระดับเดียวกันในอนาคต”
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ