Pizza Hut หลังจากถูกเปลี่ยนมือจาก Yum Restaurants สู่ PH Capital บริษัทเครือ Thoresen Thai Agencies (TTA) ได้รุกตลาดหนัก เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 13 สาขา นอกจากนี้ ได้ซื้อ Taco Bell เข้ามาถือและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว

เปิดทิศทาง Pizza Hut และ ตลาดพิซซ่า ในไทย

ปัจจุบัน Pizza Hut ได้เข้าไปอยู่ในบ้านของ TTA ตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งดูแลโดย บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ซึ่ง ณ ตอนที่ซื้อกิจการมา Pizza Hut มีจำนวนสาขาอยู่ที่ 92 สาขา ทั่วประเทศ

แต่นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ PH Capital จึงได้ทำการเปิดเพิ่ม 16 สาขาในช่วงครึ่งปีที่เหลือของปี 2560 แต่นั้นยังไม่เพียงพอ ในช่วงเดือน มกราคม-พฤษภาคม 2561 ได้เปิดเพิ่มไปแล้วอีก 13 สาขา รวม 121 สาขาในตอนนี้  แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 79 และต่างจังหวัด 42 สาขา

สำหรับเป้าหมายการขยายสาขาในอีก 2 ปีคือ ขยายให้ถึง 200 สาขาทั่วประเทศ แบ่งสัดส่วนเป็น กรุงเทพฯ 100 สาขา และ ต่างจังหวัดอีก 100 สาขา โดยมีงบลงทุนในการเปิดสาขาตั้งแต่ซื้อกิจการมาที่ 1,000 ล้านบาท

ด้านการขยายสาขานั้น เบื้องต้นจะเน้นเจาะไปตามเมืองหลักและเมืองรองตามหัวเมืองต่างๆ ในต่างจังหวัดเป็นอันดับแรก โดยยังคงเน้นห้างสรรพสินค้าเป็นหลักหรือ Mall ต่างๆ เป็นหลัก ส่วนต่อมาคือ ขยายในกรุงเทพฯ ไปตามห้างสรพพสินค้า เช่นเดียวกัน

ตลาดพิซซ่า

ส่วนยอดขายนั้นเติบโตได้ถึง 2 ดิจิต จากเดิมเติบโจได้เพียง 1 ดิจิต แบ่งยอดขายได้ คือ 60% มาจาก Delivery และ 40% มาจากหน้าร้าน

และเหตุผลสำคัญในการเติบโตคือ การทำ Promotion ถาดแรก 199 ถาดที่ 2 เพียง 99 บาท ซึ่งเป็น Keyword ที่ผู้บริโภคจำได้แล้ว

ในปัจจุบันปี 2561 ตลาดพิซซ่า ในไทยมีมูลค่า 10,000 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีมูลค่าประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท

เป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคเข้าถึงร้านได้ง่าย และมีการทำ Delivery มากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมรับประทานพิซซ่าเฉลี่ย 2 เดือนครั้ง แต่ ณ ตอนนี้ เฉลี่ยที่ 3 อาทิตย์ 1 ครั้ง

ขณะเดียวกันการเข้าถึงอาหารจำพวก ไก่ทอด พิซซ่า และแฮมเบอร์เกอร์ เฉลี่ยต่อประชากร 1 จังหวัด ไก่ทอดเข้าถึง 60-70%, แฮมเบอร์เกอร์ 40-50% และ พิซซ่า 40-50% เป็นผลมาจากการที่คนไทยคุ้นชินกับการบริโภคไก่ทอด มากกว่าอาหารอีก 2 ประเภท

ถ้ามองภาพรวมของพิซซ่า ในประเทศไทยนั้นยังคงสามารถเติบโตได้ เนื่องจากการเข้าถึงต่อประชากรยังต่ำกว่าไก่ทอด โดยเฉพาะในต่างจังหวัด

ดีล Taco Bell จาก Yum Restaurants

เฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “นอกจาก Pizza Hut เราได้มีอีกหนึ่งดีลจาก Yum คือ Taco Bell และด้วยการเป็น Partner ที่ดีต่อกัน ทาง Yum ก็เลยยินดีที่จะขาย Taco Bell ให้แก่เรา”

เราจะได้เห็น Taco Bell ในปะเทศไทยภายในสิ้นปีนี้ ไม่ก็ต้นปีหน้า โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการจดทะเบียนชื่อบริษัท

ดีล Taco bell

“เรามองว่า Taco Bell มีรสที่จัดจ้านไม่เหมือนใครซึ่งคนไทยชอบรสจัด รวมถึงอาหารแม็กซิกันในไทยก็ยังมีไม่มากจึงคาดว่าน่าจะกลายเป็นที่สนใจของคนไทยได้เป็นอย่างดี” เฉลิมชัย มหากิจศิริ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับธุรกิจอาหารของ TTA ในปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 10% ของรายได้รวม ซึ่งไม่ใช่เพียงการซื้อแค่ Pizza Hut หรือ Taco Bell เท่านั้น ในอนาคตจะต้องมีแบรนด์อื่นๆ มาเสริมแน่นอน โดยในอนาคตตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารที่ 15%

ดีล Taco bell


อ่านคอนเทนต์การตลาดอ่าน MarketeerOnline

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online