เป็นบริษัทที่สร้างปรากฎการณ์และเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอ สำหรับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ภายใต้การนำของ ‘คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร’ โดยล่าสุดเพิ่งจัด Big Event ประจำปี อย่างงาน ‘JKN Mega Showcase : Diamond Blue 1.8.18’ ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีรัฐมนตรี เซเลบริตี้ และซุปเปอร์สตาร์ทั้งไทยและต่างชาติตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
โดยนอกจากเหล่าคนดังและโชว์พิเศษต่างๆ แล้ว ภายในงานยังมีการอัพเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ โปรเจกต์ความร่วมมือของ JKN และบริษัทชั้นนำระดับโลก รวมถึงมูฟเมนต์ทางธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ …
JKN CNBC
JKN CNBC เป็นหนึ่งในโปรเจกต์หลักที่บริษัทฯ หมายมั่นปั้นมือให้เป็น Flagship ในการขยายธุรกิจสู่คอนเทนต์ประเภทการเงินการลงทุนและไลฟ์สไตล์ โดยจะมีรายการรวมทั้งหมด 7 รายการ ซึ่งตอนนี้ส่งรายการ First Class Thailand By JKN CNBC ลงผังออนแอร์เป็นรายการแรก ทางช่อง 3 SD ช่อง 28
“First Class Thailand By JKN CNBC เป็นรายการท่องเที่ยวระดับ high-end เรามีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชม โดยเฉพาะช่วง People of the Month ซึ่งจะมีแขกรับเชิญที่ประสบความสำเร็จมาแชร์เคล็ดลับและมุมมองที่น่าสนใจ โดยในส่วนกระบวนการผลิตรายการนั้น ทีมงานมีการไปฝึกอบรมที่ต่างประเทศเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ CNBC จึงมั่นใจในเรื่องคุณภาพของรายการได้อย่างแน่นอน” แหวนแหวน ปวริศา พิธีกรหลักของรายการกล่าว
การส่งออกคอนเทนต์ไทยไปสู่ทั่วโลก
ความร่วมมือทางธุรกิจของ JKN กับกลุ่ม BEC World หรือช่อง 3 ในการเป็นตัวแทนนำลิขสิทธิ์ละครไทยกว่า 70 เรื่อง ไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์สำคัญในแวดวงคอนเทนต์ ที่จะทำให้ละครไทยได้ก้าวสู่เวทีระดับโลก โดยการจัดจำหน่ายจะอยู่ในรูปแบบของการเดินสายเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ เพื่อนำเสนอละครไทยที่มีคุณภาพและน่าสนใจ เช่น สามีตีตรา ทรายสีเพลิง ลมซ่อนรัก และนาคี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และประเทศในแถบตะวันออกกลาง โดยเร็วๆ นี้ บริษัทฯ เตรียมเดินทางไปเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ในอีก 2 ประเทศคือ ฝรั่งเศสและสิงคโปร์
“เราเน้นทำการตลาดแบบ Superstar Marketing ใช้ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงไปทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มแฟนคลับ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างแบรนด์ และดึงดูดให้เกิดการติดตามผลงานต่อเนื่อง อย่างที่ฟิลิปปินส์ ตอนนี้ซื้อละครไทยไปแล้วกว่า 50 เรื่อง และชาวฟิลิปปินส์ก็ชอบนักแสดงของบ้านเรามาก โดยเฉพาะมาริโอ้และณเดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งออกละครไทย
ตอกย้ำกระแสภารตะฟีเวอร์ เตรียมส่งนาคิน 3 ล่าเรตติ้ง
หลังจากซีรีส์อินเดียหลายเรื่องประสบความสำเร็จ สามารถกวาดเรตติ้งบนหน้าจอโทรทัศน์เมืองไทยได้อย่างถล่มทลาย แบบที่ว่าบางวันมีคนดูเฉลี่ยต่อนาทีสูงกว่าละครไทยในช่วงไพรม์ไทม์ไปแล้ว โดยเฉพาะ ‘นาคิน’ ซีรีส์แนวดราม่าแฟนตาซี ที่เคยออนแอร์ทางช่อง 33 HD และเร็วๆ นี้ ซีรีส์อินเดียพันล้านเรื่องนี้กำลังจะกลับมาบนหน้าจอช่อง 3 อีกครั้ง พร้อมเพลงประกอบซีรีส์ที่สร้างสรรค์โดยทีมงานคุณภาพและนักร้องชั้นแนวหน้าของเมืองไทย …
คุณแอน-จักรพงษ์ กล่าวว่า กระแสความนิยมในซีรีส์อินเดียไม่ใช่เพียงแฟชั่นที่เกิดขึ้นแล้วหายไป แต่ถือเป็นต้นกำเนิดของความเป็นไทย มีความเชื่อมโยงทางศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม รวมถึงความเชื่อต่างๆ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวไทยชื่นชอบและติดตามซีรีส์อินเดีย นอกจากนี้ โปรดักชั่นของซีรีส์อินเดียในปัจจุบันยังถือว่ามีคุณภาพและได้มาตรฐานเทียบเท่าซีรีส์ชั้นนำระดับโลก
ผุดโปรเจกต์ The River of Kings: The Pride of Thai excellent
อีกหนึ่ง Big Project ของ JKN ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจคอนเทนต์และการเป็นตัวแทนในการเผยแพร่ผลงานทางศิลปวัฒนธรรม นั่นคือ ‘โปรเจกต์ The River of Kings: The Pride of Thai excellent’ โครงการพัฒนาศูนย์กลางทางวัฒนธรรมไทยที่มีต้นกำเนิดมาจากความเชื่ออินเดีย เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแบบ Interactive และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เข้าชม
“The River of Kings ดำเนินการโดย เจเคเอ็น แลนด์มาร์ค บริษัทในเครือ เรียกว่าเป็นการต่อยอดจากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่เรามี พัฒนาสู่การเป็นผลงานศิลปะที่จับต้องได้ โดยโปรเจกต์นี้ใช้เงินลงทุนหลักพันล้านบาท เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาโครงการให้เป็น Global Content Hub of Asia ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3-5 ปี” คุณแอน-จักรพงษ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
เตรียมปั้นปฐมบทแห่งตำนาน ‘สยามรามเกียรติ์’
JKN ร่วมกับทีมงานอินเดียผู้สร้างซีรีส์สีดาราม และหม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับ เตรียมนำ ‘รามเกียรติ์’ บทประพันธ์ในรัชกาลที่ 1 สร้างเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่วรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์จะมีการถ่ายทอดบนหน้าจอโทรทัศน์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020 นี้
พร้อมเติบโตควบคู่สื่อทุกประเภท
สำหรับธุรกิจของ JKN ในปัจจุบัน นอกจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการสื่อโทรทัศน์ ทั้งช่อง Digital และช่องเคเบิลแล้ว บริษัทฯ ยังมีการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้ผู้ประกอบการในด้านอื่นๆ ได้แก่
- Home Entertainment ซีดี ดีวีดี
- สื่อที่ให้บริการบนยานพาหนะต่างๆ เช่น เครื่องบิน
- แอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต
- สื่อสิ่งพิมพ์
- ผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกในรูปแบบต่างๆ
แม้จะมีหลากหลายคอนเทนต์และปรากฏการณ์ที่ JKN ได้เนรมิตให้เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อดูจากบรรดา Big Projects ที่ประกาศมาในข้างต้นนี้แล้ว การก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในธุรกิจการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกตามวิชั่นที่ตั้งไว้ คงจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน …
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.jknglobal.com
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ