ณ เวลานี้ “ร้านสะดวกซื้อ” จะแข่งขันอะไรกัน จำนวนสาขา ราคา, ความหลากหลายของสินค้า,เมนูอาหาร ที่พูดมาทั้งหมด เป็นอาวุธหลักของแต่ละร้านที่ใช้แย่งชิงลูกค้ากันมาอย่างยาวนาน
จนเริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนกับสนามแข่งขันใหม่นั้นคือรูปแบบร้านที่มีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ เพื่อใช้เรียกลูกค้า ถึงแม้เวลานี้บางร้านจะใช้เป็นแค่ “ต้นแบบ” มีแค่ 1 -2 สาขา แต่นี้คือสัญญาณบ่งบอกว่า ร้านสะดวกซื้อกำลังอัพเกรดตัวเองไปอีกขั้น
ผู้นำตลาดอย่าง 7 ELEVEN ที่ปัจจุบันมี 10,260 สาขาทั่วประเทศ แม้ที่ผ่านมา 7 ELEVEN จะมีรูปแบบร้านในแต่ละสาขาที่ “แตกต่าง” กันออกไปตามโลเคชั่น แต่ก็ยังไม่มีสาขาไหนที่ “ฉีกและต่าง” แบบหลุดกรอบ
Model ที่ 7/11 เตรียมไว้ในอนาคต
แล้วสิ่งที่ 7 ELEVEN โชว์เหนือกว่าคู่แข่งนั้นคือร้านแนวคิด 4.0 ซึ่ง 7 ELEVEN บอกว่านี้คือสาขาในอนาคตข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น ทำให้ธีมการตกแต่งเป็นธีม “อวกาศ” โดยสาขานี้ตั้งอยู่ถนน แจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นการพลิกดีไซน์ตั้งแต่หน้าร้านจนถึงตู้กดสเลอปี้ ที่กำลังเกิดกระแสแชร์วนไปใน Facebook
ความต่างที่ 7 ELEVEN เสิร์ฟมีมากมายทั้งการสแกนบาร์โค้ด และชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน หรือรูดบัตร, การสั่งซื้อสินค้าของ 24 shopping ที่ไม่ต้องให้ลูกค้ารอข้ามวัน แค่กดเลือกซื้อสินค้าผ่านหน้าจอและนำ QR Code ไปชำระเงินรับสินค้าทันที, Sevy Bot หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ช่วยสร้างสีสันสามารถโต้ตอบกับลูกค้าและยังมีหน้าจอแสดงโปรโมชั่น, ที่ชาร์จไฟ EV Car และอีกสารพัดความไฮเทค
เหตุผลที่ 7 ELEVEN ต้องโชว์อ๊อฟว่าตัวเองล้ำหน้ากว่าคู่แข่งไปแล้วหลายก้าวด้วยการมีสาขาต้นแบบที่ไฮเทคแซงหน้าคู่แข่ง เพราะถ้าหาก 7 ELEVEN ไม่ทำในตอนนี้ ร้านสะดวกซื้อแบรนด์รองๆ ก็ทำอยู่ดี เพราะฉะนั้น การเป็นผู้นำตลาดแล้วทำก่อน ย่อมเรียกกระแสความสนใจได้มหาศาล
ช้อปออนไลน์ ที่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือน
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งใครจะเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ 7 ELEVEN เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้ตัวเองอยู่รอดในอนาคต โดย วิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงาน Corporate Asset and Facilities Management บมจ.ซีพีออลล์ บอกว่า จากทิศทางของร้านนี้ทำให้เห็นได้แล้วว่า 7 ELEVEN ในอนาคตกำลังจะก้าวไปทางไหน ด้วยเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในร้านตัวเอง
เพราะอนาคตอันใกล้ คนอาจจะออกไปช้อปปิ้งนอกบ้านในความถี่น้อยลง แล้วหันมาช้อปกระจายในออนไลน์แทน เมื่อความถี่ช้อปหน้าร้านมีอัตราน้อยลง การมีสาขามากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศย่อมทำให้ 7 ELEVEN ต้องแบกรับต้นทุนหลายอย่างทั้งค่าเช่าพื้นที่ เงินเดือนพนักงาน โดยสาขานี้จะเห็นได้ชัดว่าเกือบทุกอย่างในสาขาใช้เทคโนโลยีตอบสนองลูกค้า ซึ่งถือเป็นการลดพนักงานต่อ 1 ร้านได้เป็นจำนวนมาก
ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเรื่องคาดเดาได้ยากว่าในอนาคตข้างในในยุคที่ออนไลน์สามารถล้อมรอบ Lifestyle ได้ครบทุกเพศทุกวัย รายได้ 7 ELEVEN จะยังคงมหาศาลเหมือนอย่างปัจจุบันได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ 7 ELEVEN คงไม่ยอมให้กำไรตัวเองลดน้อยลงอย่างแน่นอน
Family Mart ขอญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่น
ส่วนเบอร์ 2 อย่าง Family Mart ร้านสะดวกซื้อในเครือเซ็นทรัล ที่ปัจจุบันมีถึงเกือบๆ 1,200 สาขาแม้จะยังขาดทุนต่อเนื่อง แต่ต้องบอกว่า Family Mart เองก็ยังสู้ไม่ถอยในตลาดร้านสะดวกซื้อ
โดยที่ผ่านมา Family Mart เองก็ไม่ได้หยุดนิ่งทั้งการขยายสาขาและการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ร้านตัวเองโดยเฉพาะกลุ่มเมนูอาหาร สุดท้ายรวมไปถึงการสร้างสาขารูปแบบใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยมีมาก่อน
จากที่เคยเห็นไปแล้วก่อนหน้านี้นั้นคือสาขาที่อยู่ ใต้โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เป็นร้านสะดวกซื้อแนวใหม่ที่มีทั้งร้านกาแฟ เบียร์สด ขนมปัง เบเกอรี่ ของฝาก ผลไม้ และมุมนั่งทานอาหารชิลล์ๆ รวมอยู่ในร้านเดียวกัน
จนมาถึงรูปแบบใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ณ สาขา “สาขาสุขุมวิท 33” ที่มีทั้งขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าสาขาปรกติ ตกแต่งภายในสไตล์ญี่ปุ่น และมีสินค้า-บริการรวมกันกว่า 3,000 รายการ โดยเป็นร้านสะดวกซื้อที่มี 2 ชั้น ซึ่งชั้น 2 นี้เองที่เป็น Co-working Space บนพื้นที่ 200 ตารางเมตร พร้อมบริการ wifi และสามารถนำอาหารปรุงสดที่ซื้อจากชั้น 1 มาทานที่ชั้นสองได้
โดยโมเดลนี้ถูกถอดแบบมาจาก Family Mart ในประเทศญี่ปุ่นเหตุผลเพราะในโซนนี้มี คนญี่ปุ่นอาศัยเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ Family Mart เองก็ต้องการรองรับพฤติกรรมลูกค้าที่หลากหลาย แม้ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อเสร็จก็ออกจากร้านทันที แต่ก็ยังมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ต้องการนั่งชิลล์ๆ หรือนั่งทำงาน จนไปถึงหาที่นั่งรับประทานอาหาร
ที่นี้ต้องตามมาดูกันว่าเมื่อถึงปี 2563 ที่ Family Mart ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีถึง 2,000 สาขาอยู่ในมือนั้น จะมีรูปแบบร้านสะดวกซื้อใหม่ๆ จำนวนกี่สาขา
แล้ว Family Mart จะขยายสาขาได้ตามที่วาดฝันได้จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็อยู่ในช่วงขาดทุน แต่หากสังเกตุแล้วนั้นเป็นการขาดทุนที่ลดน้อยต่อเนื่องทุกๆ ปี และที่สำคัญที่สุด การเป็นร้านสะดวกซื้อภายใต้ชายคาของเซ็นทรัล กรุ๊ป ย่อมมีพลังเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
แต่เป้าหมายของ Family Mart คงไม่ใช่การโค่นแชมป์ 7 ELEVEN เพราะเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่การจะแย่งชิงลูกค้าจากผู้นำตลาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั้นคือเป้าหมายที่แท้จริงของ Family Mart ต่างหาก
เพราะนับตั้งแต่ปี 2555 ในวันที่กลุ่มเซ็นทรัลแย่งชิงไลเซนส์ Family Mart ในไทยได้สำเร็จก็เรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่ ทั้งขยายสาขา เปลี่ยนร้านสะดวกซื้อร้านนี้ในหลายๆ สาขาจากสภาพปางตายไร้ชีวิตชีวา ให้มีสภาพร้านเรียบหรูสะอาดตา
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ