ปัจจุบันจีนยังเป็นประเทศใหญ่และมีประชากรมากสุดในโลก แต่ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ ความก้าวหน้าทาง Technology ร่วมสมัยมากมาย ชัดเจนสุดคือ Smartphone ที่ Huawei, Oppo และ Xiaomi มาพร้อม Feature พร้อม Function หลายอย่างที่ทัดเทียม หรือแซงหน้าแบรนด์ดังที่ครองตลาดมานานอย่าง iPhone และ Samsung จนขึ้นมา Top 5 แบรนด์ขายดีสุดในโลกหลายไตรมาส ส่วนอีกตลาดที่แบรนด์จีนกำลังมาแรงไม่เฉพาะในบ้านเกิดขึ้น Social Media App เน้น Video Clip สั้นๆ ซึ่ง TikTok เป็นแกนนำเจาะตลาดโลก
ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลกซึ่งในจำนวนนี้ราว 40% เป็นผู้ใช้นอกประเทศจีน ทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการทั้งในบ้านเกิดอย่าง WeChat ของ Tencent และ Youku ของ Alibaba หรือแม้กระทั่งเบอร์หนึ่งในโลกอย่าง Facebook ต้องจับตามองว่า App น้องใหม่นี้มีอะไรดีจึงสามารถครองใจคอ Social ทั่วโลก
ทำความรู้จัก TikTok
Mbappe แห่ง Social Media App
TikTok เป็น App ที่พัฒนาขึ้นโดย ByteDance บริษัท Technology จีนรุ่นใหม่ที่สร้างชื่อมาจาก โถวเถี่ยว–App รวบรวมหัวข้อข่าวยอดนิยม โดยตัว App ซึ่งผู้ใช้สามารถบันทึก ตัดต่อและเพิ่มลูกเล่นมากมายให้ Video ความยาวราว 15 วินาทีของตัวเองได้ คล้าย Snapchat เปิดตัวเมื่อปี 2016
ถัดจากนั้นในปีถัดมาได้ซื้อกิจการของ Musical.ly–App ลักษณะใกล้เคียงกัน มีลูกเล่นที่เพลง ด้วยเงินกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 26,400 ล้านบาท) จนทำให้จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและโดยเฉพาะในต่างประเทศ
สำนักงานใหญ่ของ ByteDance
ความสนุกของ TikTok ซึ่งชาวจีนรู้จักกันในชื่อ โต่วอิน นอกจากทำให้ผู้ใช้ได้สร้าง Video Clip สั้นๆ พร้อมเพลงและลูกเล่นในการแต่งภาพแล้ว ภาพเคลื่อนไหวสนุกๆ เรียกรอยยิ้มของผู้ใช้ยังสามารถส่งต่อ (Share) และสร้างความมีส่วนร่วม (Engagement) ได้เหมือนกับ Social Media อื่นๆ
ขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมโยงกับคนอื่นๆ ใน Platform ผ่านการเลียนแบบ หรือสร้าง Video Clip ของตัวเองขึ้นมาบ้าง และแน่นอนว่าทั้งหมดสามารถ Share ต่อไปยัง Social Media อื่นทั้ง Facebook และ Instagram ได้ด้วย
ลูกเล่นดังกล่าวทำให้ Tiktok มัดใจคนรุ่นใหม่หลายรุ่นตั้งแต่ Millennial ลงมา ที่เบื่อ Social Media ใหญ่ๆ ได้ไม่ยาก จนเป็นหนึ่งใน App ที่มียอด Download สูงสุดทั่วโลกในปีนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่า App ของ ByteDance ฟอร์มแรงและถูกจับตามองมากสุดในตลาด Social Media ไม่ต่างจากที่ Kylian MBappe ปีกดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสทำได้ในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด
Social Video App ตลาดใหม่ที่กำลังโตและมีจีนเป็นพี่ใหญ่
ข้อมูลจากการคาดการณ์ของบริษัทสำรวจตลาดมากมายเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าตลาด Social Video App ลักษณะต่างๆ โดยเฉพาะเผยแพร่ Video กิจกรรมต่างๆ (Live-streaming) ทั้งที่เป็นคนทั่วไปหรือบุคคลมีชื่อเสียงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต เพราะวัยรุ่นต้องการช่องทางแสดงตัวตนใหม่ที่ไม่ใช่ Social Media รายใหญ่
ขณะเดียวกันต้องมีลูกเล่นใน App เพื่อให้ Video ที่ออกไปโดดเด่นมีความน่าสนใจ App ที่ตอบโจทย์ดังและได้รับความนิยมคือ TikTok และ Vigo ที่ล้วนเป็นของ ByteDance
ส่วนตลาด Live-streaming (ไม่เกี่ยวกับ Video-streaming) ใหญ่สุดในโลกคือจีน โดย Deloitte ประเมินว่าปี 2018 มูลค่าตลาด Live-streaming ในจีนจะอยู่ที่ 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 145,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึง 32% จากปี 2017 ขณะที่ L2 ประเมินว่ามีผู้ชม Live-streaming ในจีนต่อเดือนมากกว่า 100 ล้านคน
ขณะที่จำนวนคนที่สร้าง Video ขึ้นมาเองก็ไม่น้อยหน้า โดยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ The Washingtonpost ระบุว่าผู้ใช้ Internet ในจีน 350 ล้านคน เคยใช้ Live-streaming app แน่นอนว่าอัตราเติบโตดังกล่าวไปเตะตาทั้งแบรนด์สินค้าและค่าย E-Commerce ที่ต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่อย่างทั่วถึง
และเป็นธรรมชาติ ผ่านบรรดาผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Influencer) ทั้งเป็นคนดังในเฉพาะโลก Live-streaming หรือนักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
Influencer กลุ่มแรกยังเป็นช่องทางสร้างรายได้ของวัยรุ่นจีนในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังเกิดธุรกิจเสาะหา ปลุกปั้น และดูแล ‘ดาว Livestreaming’ อย่างเป็นระบบ อีกด้วย สำหรับสาเหตุที่ทำให้ Live-streaming มีอัตราขยายตัวสูงมากในจีน แซงหน้าประเทศอื่นไปไกลมีหลายปัจจัย เริ่มจากสัญญาณ Internet ที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เช่นเดียวกับอัตราการครอบครอง Smartphone ที่สูง
ขณะเดียวกันยังมีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคา และ “คนแดนมังกร” ส่วนใหญ่ต่างเห็นว่า การได้รู้ได้เห็นชีวิตของเพื่อนร่วมชาติ เป็นทั้งการคลายเครียดจากชีวิตประจำวัน และเนื้อหาแทบทั้งหมดก็มีความเป็นธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่ง หรือหากมีก็น้อย ต่างจากเนื้อหารายการโทรทัศน์ของรัฐที่ซ้ำซาก คาดเดาได้และมีการปรุงแต่งให้ดูดี ตามแบบประเทศคอมมิวนิสต์
ด้านรัฐบาลจีนเองก็เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ Video เข้าข่ายไม่เหมาะสมต่างๆ ทั้งการเมืองและที่ส่อไปทางอนาจาร ซึ่ง TikTok ก็ถูกสั่งลบบาง Video เช่นกัน
เจาะลึก Startup Unicorn สัญชาติจีนเจ้าของ TikTok
จาง ยี่หมิง ผู้ก่อตั้ง ByteDance
ByteDance ก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดย จาง ยี่หมิง อดีตอดีตพนักงาน Microsoft วัย 35 ปี การที่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็น App ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมและรสนิยมของผู้ใช้ ยี่หมิง จึงระบุว่าบริษัทในความดูแลเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจากรายได้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว และจำนวนผู้ใช้หลายร้อยล้านคนต่อเดือน ทำให้เริ่มได้รับความสนใจจากคนดังในบริษัท Technology ระดับโลก
มีรายงานว่าเมื่อปีที่แล้ว มาซาโยชิ ซัน ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร (CEO) ของ Softbank บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น แสดงความสนใจร่วมลงทุนใน ByteDance ขณะที่ Tim Cook–CEO ของ Apple ได้มายังสำนักงานใหญ่ของ ByteDance ในกรุงปักกิ่งระหว่างการเยือนจีนรอบล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ คาดว่าเพื่อใช้ข้อมูลสำหรับการทำธุรกิจในจีน ประเทศที่มี Digital Platform ดังในแบบของตัวเอง ซึ่งใกล้เคียงกับของชาติตะวันตก อย่าง Facebook, Instagram และ Twitter ที่ถูกปิดกั้น /cnn, forbes, washingtonpost, wikipedia
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ