เทรนด์ อสังหาฯ และ การอยู่อาศัย ปี 2018

เมื่อประชากรมีจำนวนมากขึ้น และกระจุกอยู่ในตัวเมืองมากขึ้น

เทคโนโลยีจึงจำเป็นอย่างมาก ในการเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ ทรัพยากร และไลฟ์สไตล์

มาดูกันว่าในอนาคต มีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่รอเราอยู่

 

– – – Property Tech – – –

คุณอาจจะคิดว่า อสังหาริมทรัพย์ เป็นแค่การซื้อมาขายไป แต่ปัจจุบันลูกค้ามีความซับซ้อนยิ่งขึ้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะช่วยให้ผู้บริโภคได้อสังหาริมทรัพย์ที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง และบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ไม่ต้องเจอกับ “อาคารร้าง” อีกต่อไป
หากป้อนข้อมูลเข้าไป AI สามารถประเมินพื้นที่ได้เลยว่า จากจำนวนผู้อยู่อาศัยรอบๆ โรงเรียน ศูนย์การค้า ออฟฟิศ และสถานที่สำคัญ พื้นที่นี้ควรทำโครงการแบบไหน

 

– – – Living Tech – – –

การทำ Smart Home ในบ้านที่สร้างมานานแล้วอาจเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องมาซื้อ IoT ใหม่ ติดตั้งใหม่ แต่สำหรับคอนโดหรือบ้าน ที่เพิ่งเกิดในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถติดตั้งได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ไฟ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แอร์ ประตู ลำโพง ประตู ทุกอย่างสามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้

การทำเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากจริงๆ คือ ทำอย่างไรให้ทุกอย่าง Sync กันแบบไร้รอยต่อ และง่ายสำหรับทุกคนในที่อยู่อาศัย

 

– – – Health & Food Tech – – –

ถึงแม้ว่า คนจะสามารถหาสินค้าสุขภาพจากที่ไหนก็ได้ แต่อย่าลืมว่า คนใช้เวลาอยู่ในที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นถ้าผู้บริโภคสามารถดูแลสุขภาพได้ตั้งแต่ที่บ้าน ใครล่ะจะไม่อยากได้

อย่างเช่น FarmTech เป็นสตาร์ทอัพที่ทำ ตู้ปลูกผักไฮโดรโพนิคในบ้าน โดยตู้นี้จะควบคุมอุณหภูมิ น้ำ และแสงสว่างด้วยสมาร์ทโฟน ทำให้เราสามารถกินผักสดๆ ปลอดสารพิษได้ทุกเมื่อ

ส่วนเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพก็ได้แก่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ที่มีเซนเซอร์วัดค่าต่างๆ ของร่างกาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น จะได้ช่วยเหลือทัน

 

– – – Construction Tech – – –

นวัตกรรมหรือเทคโนโลยี ในการออกแบบและก่อสร้าง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะมันจะช่วยควบคุมคุณภาพการผลิต และดีไซน์รูปแบบบ้านแบบใหม่ด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก

ในอนาคต คนสามารถออกแบบบ้านเองได้ อยากได้บ้านที่มีลม กันร้อน ต้องใช้วัสดุแบบไหน หรือ โครงสร้างแบบนี้ ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ต้องเปลี่ยนตามนี้ เป็นต้น

 

– – – กลยุทธ์ของ Siri Ventures ปี 2018 – – –

Siri Ventures คือ บริษัทที่ลงทุนในเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพ ภายใต้การร่วมทุนของ แสนสิริ และ ธนาคารไทยพาณิชย์
โดยปี 2017 ปีที่ผ่านมา Siri Ventures ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพในไทย และต่างประเทศ ผ่านโครงการ Siri Venture Partnership

แต่ในปี 2018 พวกเขาได้วางแผนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยจัดงบลงทุน 1,500 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี 2018-2020 เพื่อลงทุนกับ 3 เรื่อง ดังนี้

1.ลงทุนในสตาร์ทอัพ

สตาร์ทอัพที่ Siri Ventures ลงทุนนั้นอยู่ใน 4 หมวดที่กล่าวไปตอนต้น เพราะเป็นสตาร์ทอัพที่สามารถเข้ามายกระดับสินค้าและบริการของ แสนสิริ ได้จริง FarmShelf เรียบร้อย เพราะฉะนั้นถ้ามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาในไทยจริง อาจได้เห็นในโครงการของแสนสิริ เป็นที่แรก

2.จับมือกับ Innovation Platform

ลำพัง พันธมิตรในไทยอย่าง Digital Ventures หรือ Microsoft ก็แข็งแกร่งระดับหนึ่งแล้ว แต่หากจะติดจรวดจริงๆ ต้องหาพาร์ทเนอร์ระดับโลก

Siri Ventures จึงเป็นพันธมิตรกับ Innovation Platform อย่าง Plug and Play จากสหรัฐฯ และ SOSA จากอิสราเอล ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาให้ Siri Ventures เข้าถึงเทคโนโลยี นักลงทุน และสตาร์ทอัพได้เร็วมากๆ

3.ต่อยอดนวัตกรรม

Siri Ventures นำเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพมาปรับใช้กับ แอปฯ Home Service ที่ทำขึ้นมาให้ลูกบ้านแสนสิริใช้ โดยระบบ Home Automation ก็ใช้เทคโนโลยีจาก AppySphere ส่วนระบบ AI และ Voice ที่เป็นภาษาไทยมาจาก OnionShack เป็นต้น

ข้อดีของการลงทุนใน LivingTech ก็คือสามารถทำ Proof of Concenpt ได้สมจริง และดูว่าเป็นไปได้รึเปล่า

 

นอกจาก แสนสิริ แล้ว อนันดา ก็เป็นอีกแบรนด์ที่เริ่ม Digital Transformation แล้ว อย่างใต้คอนโดของอนันดา ก็มี Smart Lock สำหรับจักรยาน หรือ Smart Locker ที่ให้ลูกบ้านมารับของได้

ตอนนี้ เราเริ่มเห็น นวัตกรรม เริ่มเข้ามามีบทบาทกับที่อยู่อาศัยก่อน เพราะสามารถดูแลง่าย และ เพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ แต่หลังจากนี้ เราจะเริ่มเห็นภาครัฐ ภาคเอกชน พัฒนาพื้นที่สาธารณะ หรือ Co-working Space ให้อัจฉริยะมากยิ่งขึ้น และเข้าสู่ Smart City ในที่สุด

เทรนด์ อสังหาฯ และ การอยู่อาศัย ปี 2018



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online