สถานการณ์ ตลาดโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต วันนี้เป็นอย่างไร ?

“ภูเก็ต” ชื่อนี้ไม่ว่าใครก็รู้จัก ไม่ใช่แค่คนไทย รวมถึงชาวต่างชาติด้วย

ล่าสุด ในช่วงกลางปี 2561 ที่ผ่านมา ภูเก็ต ติด 1 ใน 10 เมืองที่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางมาพักผ่อน จากการสำรวจของมาสเตอร์การ์ด

ยิ่งทำให้ .ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนมากขึ้นจากเดิม โดยปกติก็เนื้อหอมอยู่แล้ว

ซึ่งจากผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่ภูเก็ตมากที่สุด รองมาคือ รัสเซีย และประเทศแถบยุโรป โดยระหว่างท่องเที่ยวที่ภูเก็ตนักท่องเที่ยวจะใช้เงินคนละประมาณ 4,700 บาท หรือ 239 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนที่ใช้เงินเฉลี่ย 3,000-3,500 บาทต่อวัน

ภูเก็ตยังคงเหนื่อยแม้ใกล้จะจบปี

การท่องเที่ยวไทยผ่านครึ่งปีแรกของปี 2561 ไปอย่างหอมหวาน และคงจะจบปีไปอย่างสวยหรูตามยอดนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ไว้ที่ 39 ล้านคน แต่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ที่ จ.ภูเก็ต จนเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ทำให้ ททท. คาดการณ์ตัวเลขลดลงเหลือเพียง 37 ล้านคน โดย 2 ล้านคนที่หายไปเป็น “คนจีน”

และผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้ส่งผลกระทบหนักที่สุดต่อ จ.ภูเก็ต จังหวัดที่เกิดเหตุ ซึ่งแม้ภายหลัง ททท. จะมีมาตรการการท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญสื่อจีน, จัดกิจกรรมระหว่างไทย-จีน หรือช่องทาง Online ของจีน หวังตัวเลขกลับมาโต แต่นั่นก็คงยังไม่เพียงพอต่อการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้

เลิศ ถาวรว่องวงศ์ กรรมการบริหารโรงแรมในเครือถาวร โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ในช่วงที่เหลือของปี 2561 ว่า “ในฐานะผู้ประกอบการโรงแรมใน จ.ภูเก็ต เราได้มองว่าในหน้าไฮ-ซีซั่น ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม นักท่องเที่ยวจะลดลงถึง 5% ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ยังรวมทั้งรายใหญ่ๆ อย่างรัสเซีย และ EU อีกด้วย”

ตลาดโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มีมากเกินความต้องการของนักท่องเที่ยว

ถ้าหันมามองภาพในตลาดธุรกิจโรงแรม หนึ่งในธุรกิจหลักของ จ.ภูเก็ตนั้น จะเห็นได้ว่ามีปัจจัยที่ทำให้ “ตลาดโรงแรมในภูเก็ต” ไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เติบโตเลย โดยเลิศได้ให้ข้อมูลดังนี้

ปัจจัยแรกมาจากการที่ตลาดโรงแรมในภูเก็ตเกิด Over Supply หรือมีโรงแรมเกินความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเมื่อช่วงกลางปี 2561 ถ้านับทุกโรงแรมในภูเก็ตรวมกันตามที่ ททท. แจ้งไว้ มี 92,145 ห้อง จากจำนวนโรงแรม 1,789 แห่งทั่วภูเก็ต

และถ้าดูตัวเลขปัจจุบันมีจำนวนเกินกว่า 100,000 ห้อง เท่ากับว่าถ้านับห้องละ 2 คน ต้องมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักไม่ต่ำกว่า 200,000 คนต่อวัน จึงจะไม่เกิด Over Supply

และถ้ามาดูตัวเลขเฉลี่ยของสนามบินภูเก็ตอยู่ที่ 12.5 ล้านคน ทั้งไทยและชาวต่างชาติ ถ้านำมาเฉลี่ยต่อวัน คือ 34,000 คน ซึ่งจำนวนห้องพักนั้นมีการ Over Supply ไปจำนวนเยอะมาก โดยถ้าคำนึงถึงในช่วงไฮ-ซีซั่นที่เต็มที่ก็เฉลี่ยอยู่ที่ 60,000-80,000 คน ก็ยัง Over Supply อยู่ และเมื่อมานับการเดินทางอื่นๆ ก็คงเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5-10% เนื่องด้วยภูมิศาสตร์ของจังหวัดที่เป็นเกาะ การเดินทางโดยเครื่องบินกลับเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว

นอกจากตลาดที่ Over Supply แล้ว โดนกรรมเก่าจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่ม เลยทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนคงยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร รวมถึงรัสเซีย ยังโดน USA เล่นงาน ต้องรอดูว่าในช่วงที่เหลือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจะเพิ่มหรือลดลง ขึ้นอยู่กับ USA นอกจากนี้ ด้านยุโรปยังมีปัจจัยเรื่องค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

“นอกจากเรื่อง Over Supply ของโรงแรมในภูเก็ตที่เป็นเรื่องหลักต่อตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ตแล้ว ยังมีเรื่องค่าเงินบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย ซึ่งถ้าเงินบาทแข็งค่าก็ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย” เขากล่าว

ทั้งนี้เรื่องคู่แข่งด้าน Destination อื่นๆ อย่างบาหลี ที่บูมอย่างมากในปีนี้ หรือแม้แต่ตุรกี ที่สามารถเที่ยวได้ถูกลงก็มีผลต่อ จ.ภูเก็ตทั้งสิ้น

ทั้งหมดนั้นจะส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวของภูเก็ตลดลงประมาณ 5% แต่ตลาดโรงแรมในภูเก็ตอาจลดลงถึง 10-15%

ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในทุก Segment ของตลาดไม่เว้นแม้ โรงแรมทำเล A+ หรือทำเลติดชายหาด

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online