ตลาด Music Streaming ทำไมจึงถูกจริตคนยุค 2020 (วิเคราะห์)
[บทความนี้เป็น Advertorial]
บริการฟังเพลงออนไลน์แบบจ่ายรายเดือนแล้วฟังได้ไม่อั้น หรือที่เรียกว่า Music Streaming ไม่ได้แค่เข้ามาเปิดโลกของนักฟังเพลงยุคนี้ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
แต่ยังถือเป็นโมเดลธุรกิจที่มาแรงจนยักษ์ใหญ่แห่งวงการ Tech อย่าง Apple ยังขอเล่นเกมนี้อย่างเต็มตัวด้วยการเปิดตัว ‘Apple Music’ มาตั้งแต่ปี 2015 จนปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิก (Subscriber) ทะลุ 50 ล้านคนทั่วโลก
ในบทความนี้ Marketeer จะมาหาคำตอบว่าทำไมหลายคนถึงหลงรักการฟังเพลงผ่านบริการ Music streaming รวมถึงความเจ๋งของ Apple Music
ที่สำคัญ! ถ้าใครที่รู้ตัวว่าเป็นลูกค้าของ TrueMove H เรายังมีวิธีการให้คุณได้สิทธิ์ฟัง Apple Music ฟรี สูงสุดถึง 6 เดือน อีกด้วย
รายเดือนหลักร้อย แลกกับเพลงกว่า 50 ล้านเพลง
ปัจจุบันบน Apple Music มีเพลงให้เลือกฟังกว่า 50 ล้านเพลง รวมถึง Podcast ความรู้และความบันเทิงต่างๆ แบบเต็มอิ่ม โดยแลกกับค่าสมัครสมาชิกรายเดือน 129 บาท/เดือน/คน ไปจนถึงราคา 199 บาท ที่สามารถแชร์กันได้ในแพ็กเกจแบบครอบครัว
ซึ่งเหมือนกับเราจ่ายค่าบุฟเฟต์เพียงครั้งเดียวก็สามารถเพลิดเพลินไปกับโลกของมิวสิกได้อย่างไร้ขีดจำกัด จะฟังแบบออนไลน์โดยไม่ต้องโหลดให้เปลืองพื้นที่ความจุเครื่อง หรือเลือกที่จะดาวน์โหลดก็สามารถฟังเพลงโปรดแบบออฟไลน์ได้แบบไม่มีโฆษณาคั่น
คุ้มอีกต่อกับเรื่องของดาต้าที่เสียไป
เป็นเรื่องใหญ่ที่หลายคนอาจไม่ทันคิด พอรู้ตัวอีกทียังไม่หมดรอบบิลอินเทอร์เน็ตบนมือถือก็หมดแล้ว! ซึ่งการฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งนั้นจะใช้อินเทอร์เน็ตมือถือเราเฉลี่ยแค่ 30 Mb ต่อ 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าเทียบกับฟังเพลงผ่าน YouTube ที่มาพร้อมกับ MV ขนาดความละเอียด 1080p เราต้องเสียดาต้าอินเทอร์เน็ตในระดับ 1-2 GB ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
แน่นอนว่า ตลาด Music Streaming โต เพราะสะดวกสบายกว่า
ความสะดวกที่ว่าไล่ตั้งแต่การฟังผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลายทั้งมือถือ แท็บเล็ต พีซี สมาร์ทวอตช์ แถมเพลงหรืออัลบั้มที่เลือกไว้ยังซิงค์ถึงกันหมด ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคนยุคนี้ที่มีดีไวซ์ในมือ
นอกจากนั้น ระบบต่างๆ บนแอปยังฉลาดไม่แพ้ดีเจระดับโลกที่ทั้งสามารถจัดเพลงที่เหมาะกับผู้ใช้งาน หรือจะเช็กอันดับเพลงฮิตรีบคลิกไปฟังเพลงใหม่
อย่างใน Apple Music ยังมีฟีเจอร์อย่าง Radio ที่พาให้ทุกคนสามารถฟังวิทยุรวมฟังเพลงฮิตจากดีเจทั่วโลกเเบบสดๆ 24 ชั่วโมงไม่มีโฆษณา เช่น สถานียอดฮิตอย่าง Beats1 เเค่กด Listen Now ก็ฟังได้ทันที
หรือฟังก์ชัน For you ที่ตัวเเอพฯ จะคอยคัดเพลงเพราะๆ เเบบรู้ใจให้กับเราเเบบอัตโนมัติ โดยประมวลผลจากเเนวเพลง หรือเพลย์ลิสต์ที่เราเคยฟัง
ทำให้รู้สึกว่าบริการมิวสิกสตรีมมิ่งยุคนี้ช่วยให้ค้นหาเพลงเพราะสะดวกกว่าโทรไปขอเพลงหน้าไมค์เยอะเลย!
ใครยังไม่สมัครรีบเลย!
เพราะวันนี้ลูกค้า TrueMove H ฟัง Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือน
เพียงลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่*/ซื้อเครื่องใหม่พร้อมเปิดเบอร์/ย้ายค่ายเบอร์เดิม หรือเปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือนด้วยแพ็กเกจ 699 บาท
กด *163*1# แล้วโทรออก ก็จะได้รับสิทธิ์ใช้บริการ Apple Music ฟรีสูงสุด 6 เดือนไปฟังเพลงกันฟรีๆ เลย!
คลิกไปสมัครได้ที่ https://applemusic.truemoveh.com/
เเละหลังจากรับสิทธิ์แล้ว อย่าลืมลิงก์ Apple Music เข้ากับ Apple ID และเบอร์ที่ใช้งาน หลังจากนั้นก็สามารถเปิดใช้งานได้ทันที
(*สำหรับผู้ที่รับสิทธิ์จะต้องทำการรับสิทธิ์ภายใน 120 วัน หลังจากที่สมัครแพ็กเกจหรือเปิดซิมใหม่เท่านั้น โดยสามารถยกเลิกบริการดังกล่าวได้เพียงกด *163*2# แล้วโทรออกอีกครั้ง)
[บทความนี้เป็น Advertorial]
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ