Lee Jae-yong ทำความรู้จักผู้สานต่อที่จะพา Samsung เดินหน้าหลัง Lee Kun-hee เสียชีวิต

การเสียชีวิตของผู้บริหารคนสำคัญไม่ทำให้ Samsung ต้องสะดุด โดยวานนี้ (26 ต.ค.) หุ้นบริษัทในเครือ Samsung ทั้ง 6 บริษัทคือ Samsung Electronics, Samsung C&T, Samsung SDS, Samsung Engineering, Samsung Life Insurance ในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ล้วนปรับขึ้น แม้ Lee Kun-hee ประธาน Samsung Group เสียชีวิตเมื่อ 25 ต.ค.

นี่เป็นสัญญาณว่านักลงทุนเชื่อมือ Lee Jae-yong ลูกชายของ Lee Kun-hee ที่รับช่วงต่อจากพ่อมาแล้วหลายปีและเชื่อมั่นว่า Samsung ในมือ Lee Jae-yong จะก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง

Lee Kun-hee

Lee Kun-hee ที่ขึ้นมาบริหาร Samsung Group เต็มตัวเมื่อปลายยุค 80 ต่อจาก Lee Byung-Chol ผู้เป็นบิดาและ Lee Maeng-hee พี่ชายคนโต โดยในปี 1993 Lee Kun-hee เห็นว่าแม้ Samsung Group เป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ของเกาหลีใต้ (Chaebol) แต่กลับขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง

เขาจึงสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ให้ความสำคัญกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Samsung Electronics

ช่วงแรก ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Samsung ยังไม่สามารถตีตลาดโลกได้ เนื่องจากเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ Lee Kun-hee จึงกล่าวกระตุ้นผู้บริหารและพนักงานระหว่างการประชุมที่นคร Frankfurt ของเยอรมนี ว่า “ต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ยกเว้น เปลี่ยนภรรยาและลูก” แม้ต้องแลกกับยอดขายที่ลดลง

เหตุการณ์ครั้งนั้นผลักดันให้ Samsung แซง Sony ขึ้นมาเป็นแบรนด์โทรทัศน์ยอดขายสูงสุดในปี 2006 และยังเป็นรากฐานให้ Samsung พัฒนามาจนเป็นแบรนด์ Smartphone เบอร์ต้น ๆ ในปัจจุบัน

ปี 2014 Lee Kun-hee เกิดอาการหัวใจวาย ต้องนอนติดเตียงและไม่สามารถบริหาร Samsung ต่อได้ ผู้ที่ขึ้นมาเป็นผู้บริหารรุ่น 3 คือLee Jae-yong ลูกชายคนโตของ Lee Kun-hee โดย Lee Jae-yong ขึ้นมาเป็นรองประธาน Samsung Electronics และเดินหน้าซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยีกว่า 10 แห่ง

Lee Jae-yong

Deal สำคัญสุดของ Samsung Electronics ยุคLee Jae-yong คือการทุ่ม 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 187,500 ล้านบาท) ซื้อกิจการ Herman International บริษัทกลุ่มอุปกรณ์รถยนต์สัญชาติ

เพราะทำให้ได้แบรนด์เครื่องเสียงดัง ๆ อย่าง JBL และ Bang & Olufsen ที่เดิมเป็นของ Herman International เข้ามาอยู่ใต้ชายคา พร้อมต่อยอดสู่ Internet of Things ด้วย

ปี 2019 Samsung ทุ่มเงินลงทุน 117,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) เพื่อตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของโลกในปี 2030 ท่ามกลางการขยายตัวของ Mobile Device

ล่าสุด Samsung ต้องพบความสูญเสีย โดย 25 ตุลาคม Lee Kun-hee ที่นอนป่วยมา 6 ปี เสียชีวิตด้วยวัย 78 ปี แต่ Samsung ยังเดินหน้าต่อได้แบบไม่มีสะดุด เพราะ Lee Jae-yong เข้ามาบริหาร Samsung แทนพ่อมาแล้ว 6 ปี

ปัจจุบัน Lee Kun-hee นั่งเก้าอี้รองประธานบริหารของ Samsung Electronics แม้ยังไม่ได้แต่งตั้งให้เป็นประธาน Samsung Electronics อย่างเป็นทางการก็ตาม

4 Chaebol ใหญ่

แหล่งข่าวใน Chaebol คาดว่าหลังงานศพของ Lee Kun-hee จบลงพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) บอร์ดบริหารของ Samsung Electronics อาจมีการประชุมกัน เพื่อแต่งตั้ง Lee Jae-yong เป็นประธานอย่างเป็นทางการ โดยหากเป็นไปตามนี้ 4 Chaebol ใหญ่ของเกาหลีใต้ คือ Samsung, Hyundai, LG และ SK จะอยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม บอร์ดบริหารของ Samsung Electronics อาจต้องให้บริหารระดับสูงสักคนขึ้นมารักษาการแทนในตำแหน่งประธานไปก่อน หรือปล่อยให้ตำแหน่งนี้ว่างต่อไป แม้ในทางปฏิบัติLee Jae-yong คือประธานตัวจริง

เพราะLee Jae-yongยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีทุจริต 2 คดี และการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุด โดยหนึ่งในนั้นคือคดีทุจริตที่ทำให้ Park Geun-hye ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ พ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2017 และต้องโทษจำคุกมาจนถึงปัจจุบัน/koreantimes, reuters, wikipedia, fobes, pulesnews