ตลาดน้ำผลไม้ 2564 ทำไมคนดื่มน้อยลง ทั้งๆ ที่กระแสรักสุขภาพมาแรง (วิเคราะห์)

ตลาดน้ำผลไม้ ที่ไม่ได้เจอผลกระทบจากแค่สถานการณ์โควิด-19

ที่ช่องทางการขายหลัก ๆ คงหนีไม่พ้นห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ที่เวลาเปิดปิดลดน้อยลง

แต่ยังโดนกระทบจากเทรนด์รักสุขภาพที่ผู้บริโภคหันมาลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีความหวาน

ที่ทำให้ 2-3 ปีหลังมูลค่าตลาดน้ำผลไม้ลดลงทุกปี

ประกอบทั้งเทรนด์ของน้ำดื่มวิตามิน วิตามินวอเตอร์ที่มาแรงแซงทุกเครื่องดื่ม ก็ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่ก็เป็นปัจจัยที่มากระทบตลาดน้ำผลไม้ในปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

แล้วตลาดน้ำผลไม้ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

อ้างอิงข้อมูลจากนีลเส็น พบว่า ตลาดน้ำผลไม้ปี 2563 มีมูลค่าอยู่ที่ 9,707 ล้านบาท ลดลง 15%

หากเจาะลึกลงไปเป็นรายเซกเมนต์ เซกเมนต์พรีเมียม หรือกลุ่มน้ำผลไม้ 100% มีสัดส่วนมากที่สุด มีมูลค่า 3,264 ล้านบาท

ขณะที่ในปีที่ผ่านมาใน 4 เซกเมนต์ตามด้านล่างนี้ เซกเมนต์มีเดียม หรือกลุ่มน้ำผลไม้ 40% ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 90% มีการเติบโตอยู่กลุ่มเดียว

จากมูลค่า 1,040 ล้านบาท ในปี 2562 เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,453 ล้านบาท ในปีที่แล้ว

แล้วถามว่าใครครองส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ 100% มากที่สุด

คำตอบคือ “ทิปโก้” ที่เราเห็นน้ำผลไม้กล่อง ๆ วางขายเต็มเชลฟ์ ที่ปีที่ผ่านมาก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

รายได้จากการขายของบริษัทปีที่ผ่านมา (ทิปโก้ไม่ได้มีแค่น้ำผลไม้ แต่ยังมีน้ำดื่มออร่า ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากพืชผัก และผลไม้ รวมถึงลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ด้วย) อยู่ที่ราว 2,500 ล้านบาท ลดลง 30%

โฟกัสที่ธุรกิจเครื่องดื่มที่มีสัดส่วนเป็นรายได้หลักมีรายได้ 1,648 ล้านบาท ลดลง 22%

แล้วทิศทางปีนี้ของทิปโก้ เป็นอย่างไรมาหาคำตอบ

ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) แถลงทิศทางของทิปโก้ฟู้ดส์ปี 2564 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า