เอปสัน (Epson) รุกตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กรเต็มตัว หลังเลิกขาย-กระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ใน SEA ภายใน ธ.ค. 2023 สร้างความยั่งยืนระยะยาว พบ ไทย ฮับใหญ่ของตลาดในภูมิภาค
มร. จุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น เผยว่า ปัจจุบันเอปสัน มีพนักงานอยู่ทั่วโลก ประมาณ 80,000 คน มียอดขายในปี 2021 อยู่ที่ประมาณกว่า 400,000 ล้านบาท
ตั้งแต่ปี 1982 เอปสัน ได้ขยายเครือข่าย และศักยภาพทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) อย่างมาก ตอนนี้มีสำนักงานเปิดอยู่ใน 10 ประเทศ ภายใต้การดูแลของเอปสัน สิงคโปร์ ทั้งยังมีศูนย์โซลูชัน 6 แห่ง และโรงงานผลิต 7 แห่ง
โดยปี 2021 เอปสัน ได้ปรับวิสัยทัศน์ขององค์กร ภายใต้ชื่อ Epson 25 Renewed มีเป้าหมายเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบ และไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดินให้ได้ ภายในปี 2050
เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และตลอดซัปพลายเชน รวมทั้งนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ และลงทุนกับกระบวนการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
หลังจากผลการสำรวจต่อปริมาณการใช้พลังงานของสำนักงานทั่วไป พบว่า การใช้เครื่องพิมพ์นั้นบริโภคพลังงานมากเป็นอันดับ 4 รองจากเครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่าง และคอมพิวเตอร์
เอปสันจึงได้ประกาศยุติการจำหน่าย และกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ใน SEA ภายในสิ้นเดือนธันวาคม ปี 2023 และทั่วโลก ภายในปี 2026
เพื่อหันไปทุ่มเทในการพัฒนา เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้มากกว่า
แถมเทคโนโลยี Heat-Free ในเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ยังสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ถึง 85% ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย
ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับองค์กรธุรกิจใน SEA อ้างอิงข้อมูลจาก International Data Corporation (IDC) ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อไตรมาส 1/2022 พบว่า แบ่งเป็น 3 เซกเมนต์ ดังนี้
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ความเร็วการพิมพ์ระดับ 31-60 หน้าต่อนาที จำนวน 21,214 เครื่อง นับเป็นเซกเมนต์ที่ครองส่วนแบ่งเยอะสุดในตลาด
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ความเร็วการพิมพ์ระดับ 21-30 หน้าต่อนาที จำนวน 19,093 เครื่อง
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ความเร็วการพิมพ์ระดับ 61 หน้าขึ้นไปต่อนาที จำนวน 893 เครื่อง
ขณะที่ 6 ประเทศใน SEA ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์ความเร็วการพิมพ์ระดับ 31-60 หน้าต่อนาที มากที่สุด ได้แก่ 1. ไทย 6,724 เครื่อง, 2. มาเลเซีย 5,861 เครื่อง, 3. สิงคโปร์ 5,725 เครื่อง, 4. ฟิลิปปินส์ 1,265 เครื่อง, 5. อินโดนีเซีย 836 เครื่อง และ 6. เวียดนาม 577 เครื่อง
| ไทยฮับใหญ่ SEA
ความท้าทายในการรุกตลาด เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเต็มตัวของ Epson |
|
| ประเทศใน SEA | จำนวนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ สำหรับองค์กร |
| 1. ไทย | 6,724 |
| 2. มาเลเซีย | 5,861 |
| 3. สิงคโปร์ | 5,725 |
| 4. ฟิลิปปินส์ | 1,265 |
| 5. อินโดนีเซีย | 836 |
| 6. เวียดนาม | 577 |
| รวม 6 ประเทศ | 21,214 |
| * นับเฉพาะเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ความเร็วการพิมพ์ระดับ 31-60 หน้าต่อนาที | |
| ที่มา: Epson รวบรวมจาก IDC |
ซึ่งในวันนี้เอปสันได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Epson WorkForce Enterprise AM-Series ซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น AM-C4000 ที่พิมพ์เร็ว 40 หน้าต่อนาที รุ่น AM-C5000 ที่พิมพ์เร็ว 50 หน้าต่อนาที และรุ่น AM-C6000 ที่พิมพ์เร็ว 60 หน้าต่อนาที
ทั้งหมดเป็นเครื่องมัลติฟังก์ชัน 4 สี รองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่สุดได้ถึง A3 ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Heat-Free ซึ่งไม่ใช้ความร้อน ใช้พลังงานต่ำ และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ รวมถึงใช้วัสดุสิ้นเปลือง น้อยกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์
นอกจากนี้ เอปสัน ยังได้นำทางเลือกการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจ โดยนำเสนอบริการแบบระบบสมาชิก (Subscription) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งานผ่านโปร Epson EasyCare 360 ที่ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์งานทั้งสีหรือหรือขาวดำ รวมถึงบริการหลังการขายแบบ On-Site Service
ทั้งบริษัทจะเน้นทำตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ทั้งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าไอที และผู้จำหน่ายหลากหลายหมวดสินค้า อีกทั้งจะขยายช่องทางไปยังกลุ่ม Office Automation ที่จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน
–