ความสำเร็จของ Soft Power เกาหลีใต้ มีให้เห็นอยู่ทุกมุมโลก ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็เจอกับฉลาก Made in Korea ตั้งเเต่อาหาร เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เพลง ศิลปิน ดารา ไปจนถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิต ที่ทุกคนให้การยอมรับ ปฏิบัติตาม ราวกับเป็นลัทธิหนึ่ง
จนส่งผลให้อุตสาหกรรม K-POP ในตลาดโลก เติบโตอย่างพุ่งพรวดทุกปี ในระยะเพียง 3 ปี มีการเติบโตมากกว่า 2.5 เท่า มีมูลค่าประมาณ 8,100 ล้านดอลลาร์ ราว 3 แสนล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2031 จะอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท
แต่หากพูดถึงความสามารถของบุคลากรในแวดวงบันเทิงไทย มีโอกาสจะเติบโตไปได้เเบบเกาหลีเช่นกัน ยกตัวอย่าง MILLI, Phum Viphurit, LISA Blackpink, Bambam Got7, Minnie (G)-IDLE, Ten Nct และ นิชคุณ 2PM (โด่งดังมากในเกาหลี) บุคคลเหล่านี้ล้วนโด่งดังไปในระดับโลก
เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ทำธุรกิจมาอย่างหลากหลาย เล็งเห็นโอกาสของการเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงในแบบอาศัยซอฟต์เพาเวอร์ แม้อุตสาหกรรม K-POP ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในระดับโลก แต่เมื่อมองไปยังข้อมูลกลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบเกาหลี ไทยเเละประเทศอาเซียน คือผู้สนับสนุนศิลปินเกาหลีในอันดับต้นมาโดยตลอด นับเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่
CP จึงได้จับมือกับ THEBLACKLABEL ตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (เครือซีพี) และค่าย THEBLACKLABEL เกิดเป็น “THEBLACKSEA” เพื่อสร้างครีเอทีฟคอมมูนิตี้ระดับโลก ผลิตศิลปินตีตลาดอินเตอร์ ทัดเทียม Kpop ดันไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา (คนซ้าย) และ Danny Chung (คนขวา)
พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา Chief Content Strategy, Investment and Partnership Officer เครือซีพี กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ซีพีลงทุนไปมากกว่า 100 ล้านบาท ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของ Soft Power ไทยที่แข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตไปได้มาก ขาดแค่โอกาสเเละการบ่มเพาะ
ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ บริษัทจะผลิตผลงานที่เป็นสากล เน้นบุกตลาดอินเตอร์เป็นหลัก แต่กลิ่นอายของซาวด์ดนตรีจะผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยลงไป
“อยากให้คนฟังซาวด์แบบไทยได้เหมือนฟังเพลงประเทศอื่น ๆ ใส่กางเกงช้างได้เหมือนใส่กางเกงยีนส์ กินผัดไทยได้เหมือนกินพิซซ่า คือให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยกลมกลืนไปได้ในระดับ Global”
ปรางพลอย สุขพิริยกุล กรรมการผู้จัดการ THEBLACKSEA เล่าการฟอร์มโปรเจกต์นี้ให้ฟังว่า ใช้เวลาในการเจรจากับ THEBLACKLABEL ไปเกือบสองปี กว่าจะเกิดการร่วมมือกัน และไทยเป็นประเทศเเรกที่ค่ายตัดสินใจร่วมทำบริษัทผลิตศิลปินเป็นครั้งเเรก นอกจากซีพีค่ายยังไม่ได้จับมือร่วมทำโปรเจกต์กับแบรนด์ใด แม้จะมีบริษัทใหญ่ยื่นข้อเสนออย่างต่อเนื่องก็ตาม
โดยที่ศิลปินที่ THEBLACKSEA ออกแบบไว้ คือกลุ่มศิลปินที่เป็นมากกว่า From Tpop หรือ Kpop แต่เป็นวงที่ไปในระดับ Global เจาะตลาดอินเตอร์ เนื้อเพลงเป็นภาษาสากล แต่อาจสอดเเทรกความเป็นไทยไว้บ้าง
เมื่อฟังดูโมเดลศิลปินแล้วนั้น จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ศิลปินที่ใกล้เคียงกับที่ค่ายคาดหวัง ยกตัวอย่างได้เป็น “วง XG” เกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปที่กำลังเป็นกระเเสในโลกฝั่งตะวันตก เเม้พวกเธอจะเดบิวต์ด้วยคำว่า “เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี” แต่ออกผลงานเพลงเป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งทุกคนในวงยังเป็นชาวต่างชาติ ไม่ใช่คนเกาหลี เเต่ก็สามารถโด่งดังในระดับอินเตอร์ได้ ด้วยคุณภาพเพลงเเละความสามารถของสมาชิก
ซึ่งแปลว่า หาก THEBLACKSEA สามารถสร้างศิลปินที่ตอบโจทย์ผู้ชม มีความสามารถ ผลงานเพลงเป็นที่ยอมรับ ศิลปินตามอุดมคติของค่าย ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดดนตรีโลกได้เช่นกัน
ด้าน THEBLACKLABEL คือ ค่ายเพลงและครีเอทีฟเอเจนซีจากเกาหลีใต้ ที่เกิดจากการฟอร์มทีมของเหล่าโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง ที่เป็นคนเบื้องหลังค่าย YG Entertainment ด้วย โดยมี Teddy Park เป็นผู้ก่อร่าง THEBLACKLABEL ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดัง ทั้ง Blackpink, Bigbang, 2ne1, Somi
ศิลปินในค่าย THEBLACKLABEL
ซึ่งเพลงที่โด่งดังระดับคนเกาหลีร้องได้ทั้งประเทศ ล้วนเกิดมาจากฝีมือของบุคลากรในค่ายนี้ ยกตัวอย่าง ทุกเพลงของ Blackpink, “Dumb Dumb” ของ Somi, “Bang bang bang” ของ Bigbang, “Gashina” ของซอนมี และอีกมากมาย ซึ่งถ้ารวมยอดรับชมในแพลตฟอร์ม Youtube เพียงช่องทางเดียว รวมกันมากถึง 10,000 ล้านวิว
เปิดโปรเจกต์ “THEBLACKLABEL’S FIRST THAILAND AUDITION” เปิดรับสมัครเพื่อเฟ้นหาศิลปินเข้าร่วมสังกัด คัดเลือกผ่านสองโปรดิวเซอร์ อย่าง 24 และ แดนนี่ ชอง โดยเปิดออดิชันรูปแบบออนไลน์ทูออฟไลน์ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในท้ายที่สุด จะได้เข้าเป็นเด็กฝึกในค่าย ณ ประเทศเกาหลีใต้ รับโอกาสเดบิวต์เป็นศิลปินในสังกัดค่ายเดียวกับ พัค โบกอม, แทยัง Bigbang, Somi, Loren และ Zion T.
มีเข้าร่วมคัดเลือกจากทั้งในประเทศไทยเเละเพื่อนบ้าน ผ่าน THE BLACK BOX Pop-up Studio มากกว่า 1,500 คน เเละปิดรับการออดิชันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการเเจ้งผลแบบส่วนตัว เเละเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อม ณ ประเทศเกาหลีใต้
Danny Chung นักแต่งเพลงค่าย THEBLACKLABEL และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาศิลปินของ THEBLACKSEA
Danny Chung นักแต่งเพลงค่าย THEBLACKLABEL และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาศิลปินของ THEBLACKSEA กล่าวถึงการตัดสินใจร่วมลงทุนในครั้งนี้ว่า “ผมเริ่มเข้าวงการ K-POP เมื่อ 10 ปีก่อน ขณะนั้นวงการยังไม่เหมือนอย่างที่เป็นในปัจจุบัน หนทางยังคับแคบกว่ามาก แต่ด้วยมองเห็นโอกาสว่า Kpop จะสามารถเติบโตไปได้อย่างแน่นอน เมื่อมองกลับมายังประเทศไทย Soft Power ไทยก็มีศักยภาพเติบโตไปได้แบบเกาหลี ขาดแค่โอกาส”
THEBLACKSEA จะเป็นบริษัทตัวแทนของศิลปินและค่าย THEBLACKLABEL อย่างเป็นทางการผู้เดียวในประเทศไทย ถือเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ของอุตสาหกรรมดนตรีเคป๊อปในระดับอาเซียน
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ