เมล็ดพันธ์ุต่างประเทศของไทยเบฟ ที่จะออกดอกผลในอนาคต

ไทยเบฟเวอเรจกำลัง Seed for Growth อีกสองปี  

ภายใน 2025 จะเห็นภาพชัดเจนว่าบริษัทไหนอยู่รอด อ่อนแอ และไปต่อ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หัวเลี้ยวหัวต่อขององค์กรธุรกิจ สถาบันการเงิน ความแข็งแรง ขีดความสามารถในองค์กร สินค้า และบริการ

ฐาปน สิริวัฒภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวในวันแถลงข่าวกลุ่มบริษัทไทยเบฟฯ ประจำปี 2023

การปลูกเมล็ดพันธ์ุของไทยเบฟจากนี้ไปอีก 2 ปีข้างหน้า เน้นไปที่การลงทุนเพื่อสร้าง โดยเฉพาะในต่างประเทศแถบอาเซียนเป็นหลัก จากการมองเห็นความได้เปรียบของประชากรรวม 600 ล้านคน ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ

ประกอบด้วย

 

1. เปิดประตูโลจิสติกส์อาเซียน

ในปีนี้ไทยเบฟฯ ใช้งบลงทุน 7,000 ล้านบาทเน้นไปยังตลาดต่างประเทศสร้างโรงงาน สถานที่ อุปกรณ์เป็นหลัก และเป็นงบประมาณที่ไม่รวมการ M&A (Mergers and Acquisitions) ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

งบ 7,000 ล้านบาท ได้แบ่ง 4,000 ล้านบาท ใช้กับการตั้งโรงงานที่กัมพูชาในการผลิตเครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ เพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศและส่งออก

การลงทุนในกัมพูชาด้วยเม็ดเงินมหาศาลมาจากการมองเห็นกัมพูชาเป็นหนึ่งใน Strategic Market ที่เชื่อมโยงการค้าประเทศในกลุ่มอาเซียนต่าง ๆ ได้ดี จากนโยบายการค้าระหว่างชายแดน

และยังคงให้ความสำคัญกับลาว แม้ทั้งสองตลาดนี้จะมีขนาดตลาดที่เล็ก แต่กัมพูชาและลาวเป็นประเทศที่มีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงไปยังเวียดนามและอาเซียนที่เป็นตลาดใหญ่ได้

 

2. ลงทุนในจีนเพื่อเรียนรู้ระบบโลจิสติกส์

ที่ผ่านมาไทยเบฟฯ เข้าไปลงทุนในบริษัท Asiaeuro ธุรกิจที่เน้นเครื่องดื่มสุราพรีเมียม มีสำนักงานใหญ่ที่กวางตุ้ง ในสัดส่วน 51% ผ่านบริษัท International Beverage Holdings (China) ที่ไทยเบฟฯ ถือหุ้น 100%

จากเดิมที่เคยลงทุนในโรงงานสุราขาวในมณฑลยูนนาน

การเข้าไปลงทุนในจีนผ่าน Asiaeuro เป็นการเข้าไปเรียนรู้ตลาด และเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในจีน โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์ และการใช้เอไอในการจัดการโลจิสติกส์ ที่จีนสามารถทำได้ดี จากแนวความคิดและการจัดการผ่านระบบที่ครอบคลุมครบลูปการทำงาน

การเข้าตลาดจีนในมุมมองของฐาปนเป็นการสร้าง Seed for Growth ค่อย ๆ สร้างความเข้าใจและขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจผ่านพาร์ตเนอร์

 

3. ยังคงเดินหน้า IPO BeerCo

BeerCo บริษัทที่ไทยเบฟถือหุ้น 100% ยังคงมีแผนทำ IPO หลังจากที่ไทยเบฟประกาศในเดือนเมษายน 2021 กับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด จนจำเป็นต้องเลื่อนการทำ IPO ของ BeerCo ออกไปก่อน จากที่เคยคาดการณ์ครั้งแรกในไตรมาส 2 ของปี 2021

BeerCo ในวันนี้ซุ่มความแข็งแกร่งในตลาดเวียดนามมากว่า 5 ปี ด้วยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท ซาเบโก (บริษัท ไซ่ง่อน เบียร์-แอลกอฮอล์- เบฟเวอเรจ คอร์เปอเรชั่น จำกัด) ผู้ผลิตเบียร์ไซง่อน ในสัดส่วนปัจจุบัน 53.59%

และซาเบโกสร้างการเติบโตให้กับไทยเบฟฯ ในฐานะเบียร์ที่เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในเวียดนาม ตลอดจนสร้างงานในตลาดเวียดนามจากซาเบโกมีกระทรวงการคลังเวียดนามถือหุ้นอยู่ถึง 31%

ในปัจจุบันไทยเบฟฯ เตรียมความพร้อมให้กับ BeerCo เพื่อทำ IPO และเมื่อตลาดพร้อม BeerCo จะเข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ๆ

ซึ่ง BeerCo มีผู้ประกอบการหลายรายอยากจะเข้ามาลงทุน และไม่ต้องการให้ทำ IPO ด้วยเหตุผลว่าการทำ IPO ทำให้บริษัทที่อยู่ในตลาดมีรูปแบบบริหารจัดการเอง คุยกับ BeerCo ยากขึ้น เพราะแวลูที่เพิ่ม เมื่อเพิ่มทุนใน BeerCo จึงต้องใช้พลังเงินในการลงทุนที่มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ในรอบ 9 เดือน 2023 ที่ผ่านมา (ตุลาคม 2022-มิถุนายน 2023) ไทยเบฟฯ มีรายได้จากการขาย 215,895 ล้านบาท เติบโต 3.8% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

แบ่งเป็นธุรกิจสุรา 93,673 ล้านบาท เติบโต 3.3%

ธุรกิจเบียร์ 93,262 ล้านบาท เติบโต 0.7%

ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ 14,822 ล้านบาท เติบโต 15.6%

ธุรกิจอาหาร 14,296 ล้านบาท เติบโต 19.2%

และอีก 2 ปีเมล็ดพันธ์ุที่ไทยเบฟฯ เพาะไว้จะเป็นอย่างไร ฐาปน มั่นใจว่าจะเห็นผลอย่างแน่นอน

–

---