Getty Images กับ Shutterstock แข่งกันมา 20 กว่าปี ถึงเวลาจับมือกันในยุค AI

Getty Images กับ Shutterstock คือ 2 แพลตฟอร์มชั้นแนวหน้าที่แข่งขันกันมาตลอดร่วม ๆ 20 ปีตั้งแต่ยุคภาพสต๊อกที่เป็นภาพนิ่ง ภาพถ่าย สู่ยุคของฟุตเทจวิดีโอภาพเคลื่อนไหว เหมือนเป็นแขนขาของคนทำงานในหลากหลายแวดวง ตั้งแต่ระดับองค์กร เอเจนซีโฆษณา รายบุคคล รวมถึงสื่อตั้งแต่ยุคสำนักพิมพ์ สู่ยุคดิจิทัล

แต่เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคทุกสิ่งไม่ว่าจะภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวดีดนิ้วได้ด้วยการ Prompt คำสั่งผ่าน DALL-E, Stable Diffusion และ MidJourney ในราคาต้นทุนที่ถูกลงมาก

แน่นอนว่าอุตสาหกรรมภาพสต๊อกต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จนทำให้ 2 ยักษ์แห่งวงการที่เหมือนกันคนละฝั่ง เกิดการควบรวมกิจการมูลค่าระดับ 128,000 ล้านบาท (3.7 พันล้านดอลลาร์)

และตั้งเป็นบริษัทใหม่โดยใช้ชื่อ Getty Images Holdings และยังคงอยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq ใช้ชื่อว่า GETY

หัวเรือใหญ่ของการควบรวมครั้งนี้จะอยู่ที่ฝั่ง Getty Images โดยที่ Craig Peters CEO คนปัจจุบันของGetty Imagesจะขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของบริษัท ส่วน Paul Hennessy CEO ของฝั่ง Shutterstock ยังคงอยู่ในตำแหน่งบอร์ดบริหาร

การร่วมกันครั้งนี้ไม่มีใครหายไปแต่ Craig Peters ระบุว่านี่คือความร่วมมือเพื่อปรับปรุงให้ธุรกิจดีแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงมองไปที่โอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในยุคดิจิทัลแบบนี้ รวมถึงจะให้ประหยัดต้นทุนในด้านต่าง ๆ ได้ ถึง 200 ล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า

อาจไม่เชิงว่าเป็นการรวมพลังสู้กับ AI …. แต่ทั้ง 2 บริษัทต้องร่วมมือและใช้พลังและใช้ AI พลังของการเป็นเครื่องมือเพื่อก้าวให้ทันโลกดิจิทัลมากกว่า

ในส่วนของภาพถ่ายและวิดีโอที่เป็นสต๊อก เหตุการณ์สำคัญ บุคคลดัง อีเวนต์ระดับโลก ยังคงเดินหน้าต่อ

แต่เราคงจะได้เห็นการพัฒนาในฝั่งของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ AI ต่าง ๆ มากขึ้น
ซึ่งที่จริงทั้งGetty Imagesกับ Shutterstock มีเครื่องมือ AI-powered tools สำหรับครีเอเตอร์หรือคนที่ต้องการสร้างภาพด้วย AI สามารถจ่ายเงินใช้งานมาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว

ฝั่ง Shutterstock ราคา 245 บาท ($7 ) ต่อเดือน สร้างได้ 100 ครั้งต่อเดือน

ส่วนฝั่งGetty Imagesร่วมมือกับ NVIDIA Edify ราคาสูงกว่าอยู่มาก ปรับแต่งได้ละเอียด ราคา 1,800 บาท/25 ครั้ง และ 5,480 บาท/100 ครั้ง

การรวมกันครั้งนี้คงต้องมีการปรับปรุงแพ็กเกจ และวางเป้าหมาย วางไดเรกชันกันใหม่
และเชื่อว่านี่เป็นแมตช์สำคัญของ 2 แพลตฟอร์มระดับโลกที่ตอนนี้รวมเป็น 1 เพื่อรับมือกับการท้าทายที่เกิดขึ้น