โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน หรือหนึ่งในโรงพยาบาลหลักภายใต้เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ในกลุ่ม BDMS ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 50 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ย่านพหลโยธิน-สะพานควาย ประกอบด้วยอาคารหลัก 4 อาคาร
วันนี้ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน กำลังก้าวเข้าสู่ Flagship Hub ด้าน Healthcare ยุคใหม่ ยกระดับโรงพยาบาลสู่การเป็นต้นแบบ ภายใต้แนวคิด “Value Personalized Care – ราคาเข้าถึงได้ บริการเข้าใจคุณ” ซึ่งผสานมาตรฐานพรีเมียมของพญาไท ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Clinical Excellence) และราคาเหมาะสม
อีกทั้งมอบความเป็นเลิศด้านการรักษา (Clinical Excellence) การออกแบบเส้นทางการดูแลผู้ป่วย (Patient Journey) ที่ทันสมัย และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness & Preventive) เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม New Age ที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
Marketeer มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์พิเศษกับทีมผู้บริหารโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ที่มาเล่าถึงกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้รับบริการ ทั้งด้าน Wellness, Preventive Care และศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ตอบโจทย์ความท้าทายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
นพ. ธนารักษ์ สถาพรวรศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ. พญาไท 1, รพ. พญาไท 2 และ รพ. พญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ตั้งอยู่ในย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (Yothi Medical Innovation District) ซึ่งมีโรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์กว่า 30 แห่ง และใกล้กับย่านนวัตกรรมอารีย์ (Ari Innovation District) ซึ่งเป็นศูนย์รวมองค์กรธุรกิจและเทคโนโลยี
ทำให้โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ทั้งด้านการเข้าถึง การร่วมมือ และการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและ Wellness Program สำหรับองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 1,900 องค์กร ครอบคลุมทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี การจัดการด้านอาชีวเวชศาสตร์ และโครงการเสริมสร้างสุขภาพเชิงป้องกัน
สัดส่วนการให้บริการทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติของโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินในปัจจุบัน แบ่งเป็นกลุ่มแรก 94.5% และกลุ่มหลัง 5.5 %
5 อันดับสาขาหลักที่มีผู้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินมากที่สุด ได้แก่
1. ศูนย์ตรวจสุขภาพและเวลเนส
2. แผนกศัลยกรรมส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery – MIS)
3. สถาบันกระดูกและข้อ (Musculoskeletal & Orthopedics – MSK)
4. ศูนย์ทางเดินอาหารและการส่องกล้อง (Gastrointestinal – GI)
5. ศูนย์หัวใจ (Cardiology & Heart Center)
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในความท้าทาย โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินได้มุ่งมั่นในการมอบการรักษาภายใต้แนวคิด “Value Personalized Care” และบทบาทสำคัญในการยกระดับสู่การเป็น Flagship Hub ของ เครือ รพ. พญาไท-เปาโลผ่านการมุ่งเน้นใน 2 แกนหลัก ได้แก่
Personalized Care – การดูแลเฉพาะบุคคล เข้าใจความต้องการและความแตกต่างของผู้ป่วย
Value – การรักษาที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับพญาไท ในราคาที่เข้าถึงได้
เพื่อทำให้ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เป็นมากกว่า “โรงพยาบาลรักษาโรค” แต่เป็น “โรงพยาบาลที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม” เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
ด้านทิศทางการขยายศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาล คุณปาณิพันธ์ ตันตยาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารธุรกิจ รพ. พญาไท พหลโยธิน เล่าว่า หลังจากนี้ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเพื่อเป็น Strategic Hub ของกรุงเทพฯ ผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่
1. Facility Upgrade: ปรับปรุงอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ทันสมัย
2. Advanced Medical Technology: ลงทุนในเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย แม่นยำและปลอดภัย
3. Specialized Excellence: ยกระดับศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาที่มีความต้องการสูง
4. Wellness & Preventive Care: พัฒนาบริการตรวจสุขภาพและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันสำหรับบุคคลและองค์กร
นอกจากนั้น ด้วยศักยภาพที่มีจากการอยู่ในเครือ BDMS ซึ่งมาพร้อมกับความร่วมมือทั้งด้านเครื่องมือและบุคลากร โดยเฉพาะกับโรงพยาบาล พญาไท 1 และ พญาไท 2 ทำให้ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน จะยังคงเป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่เน้นการดูแลที่เข้าถึงง่าย พร้อมรองรับทุกโรค และเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและเวลเนส ภายใต้แนวคิด Value Personalized Care ควบคู่กันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /