งาน Hong Kong International Optical Fair ครั้งที่ 33 ปิดฉากอย่างงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศการค้าและการเจรจาธุรกิจที่คึกคัก โดยมีผู้ซื้อกว่า 12,000 รายจาก 92 ประเทศและเขตเศรษฐกิจเข้าร่วม ตอกย้ำตำแหน่งของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมออปติคอลของภูมิภาคเอเชียที่เชื่อมผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และแบรนด์ระดับโลกเข้าหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มผู้ซื้อสำคัญมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย
งานปีนี้จัดโดย Hong Kong Trade Development Council (HKTDC) ร่วมกับ Hong Kong Optical Manufacturers Association (HKOMA) ตลอดระยะเวลา 3 วัน ได้สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรมแว่นตาที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเทรนด์ใหม่อย่างเทคโนโลยีอัจฉริยะและแนวคิดความยั่งยืนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ภายใต้ธีม “Bright Eyes • New Horizons” ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสทิศทางใหม่ของตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการปัจจุบัน ทั้งด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ดีไซน์สำหรับผู้สูงวัย วัสดุรักษ์โลก และการผสานระหว่างดีไซน์กับฟังก์ชันการใช้งาน บูธต่าง ๆ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสาน AI วัสดุย่อยสลายได้ และดีไซน์ร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ทั้งประโยชน์ใช้สอยและความงามในแบบแฟชั่นร่วมสมัย
โซนไฮไลต์อย่าง Brand Name Gallery ได้นำเสนอแบรนด์ดังมากกว่า 200 แบรนด์จากทั่วโลก เช่น BIG HORN และ P+US จากฮ่องกง MINIMA จากฝรั่งเศส STEPPER จากเยอรมนี United Colors of Benetton จากอิตาลี Masunaga และ MATSUDA จากญี่ปุ่น Nano Vista จากสเปน Ted Baker จากสหราชอาณาจักร รวมถึงแบรนด์ใหม่ที่ร่วมโชว์ตัวในปีนี้ทั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลี สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา
เทคโนโลยีแว่นตาอัจฉริยะเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจ โดยผู้ผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ Shenzhen MUEDO Technology นำเสนอแว่นอ่านหนังสือแบบ Dual-Mode รุ่น U10 ที่มีระบบ auto-focus และลำโพง Hi-Fi เจาะตลาดผู้สูงวัย พร้อมกระแสตอบรับดีจากผู้ซื้อทั่วโลก และกำลังเจรจาดีลมูลค่าราว US$500,000 กับผู้ซื้อจากอิตาลี
ด้านเทรนด์สินค้าเพื่อความยั่งยืน ผู้ผลิตหลายรายได้เปิดตัวสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุย่อยสลายได้ เช่น Winky International Limited จากฮ่องกง ที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อหลากหลายประเทศ และเชื่อมโยงไปสู่โอกาสทางธุรกิจมูลค่าสูงจากดีลที่มีศักยภาพกว่า US$1 ล้าน จากเอเจนต์อิสราเอล
บรรยากาศภายในงานยังได้รับความสนใจจากผู้ซื้อรายใหญ่ระดับนานาชาติ เช่น Mondottica Group จากออสเตรเลีย VISTA IMPORT จากบราซิล ตัวแทนจาก Kering Eyewear ของฝรั่งเศส Fielmann Group จากเยอรมนี Specsaversจากสหราชอาณาจักร Lenskart จากอินเดีย Grand Optik จากอินโดนีเซีย Capitol Optical จากสิงคโปร์ และ Euro Vision International จากสหรัฐอเมริกา ผู้ซื้อจาก Eyenavision ประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าได้พบซัพพลายเออร์มากกว่า 20 ราย และได้สั่งซื้อเลนส์จากผู้ผลิตจีนสองรายในงานรวมมูลค่า US$500,000 ขณะที่ Optisero บริษัทจากสเปนที่เข้าร่วมงานต่อเนื่องกว่า 20 ปี กล่าวว่าได้พบซัพพลายเออร์ใหม่กว่า 20 ราย และมีงบจัดซื้อรวมกว่า 2 ล้านยูโรต่อปี
อีกหนึ่งจุดเด่นของงานคือเวทีประกวด Hong Kong Eyewear Design Competition ครั้งที่ 25 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อผลักดันดีไซเนอร์ท้องถิ่นสู่ตลาดสากล ภายใต้แนวคิด “Blending Tradition and Technology” โดยผลงานชนะรางวัลในกลุ่มOpen Group คือแว่น “Be With You” จากดีไซเนอร์ Fung Wai-kuen ซึ่งสามารถแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟนเมื่อตัวผู้สวมใส่ล้ม เหมาะกับผู้สูงอายุ และยังคว้ารางวัล Made-to-Sell Award ส่วนกลุ่ม Student Group รางวัลชนะเลิศได้แก่ “Unique Perspectives” โดย Shum Chui-shan ซึ่งผสานสัญลักษณ์ผีเสื้อแห่งสิริมงคล เทคนิค Tie-Dye และโครงสร้างแบบถอดแยกได้เพิ่มมิติและฟังก์ชันการใช้งาน
เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ งานปีนี้ยังคงใช้โมเดล EXHIBITION+ ที่ผสานการจัดงานทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถจับคู่ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์ม Click2Match จนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน ขณะเดียวกันผู้เข้าชมงานสามารถใช้ฟีเจอร์ Scan2Match บน HKTDC Marketplace App เพื่อบันทึกข้อมูลผู้แสดงสินค้าและติดต่อธุรกิจต่อเนื่องหลังจบงานได้อย่างสะดวก
ภายในงานยังมีกิจกรรมสำคัญอย่าง Hong Kong International Optometric Symposium ครั้งที่ 23 ภายใต้ธีม “Age Well, See Well” ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญจากฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร มาแชร์มุมมองเกี่ยวกับสุขภาพสายตาในยุคผู้สูงวัย พร้อมด้วยโซน Designer Cafe & Innovation Hub สำหรับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ และการประกวด Green Booth Design Competition ซึ่งปีนี้รางวัล Gold ตกเป็นของ Wenzhou Ouhai Glasses Co. Ltd
