งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025 (Motor Expo 2025) ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2025 โดยมีค่ายรถยนต์เข้าร่วมงานกว่า 42 แบรนด์ และรถจักรยานยนต์ 16 แบรนด์
ผู้จัดงานเปิดเผยว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความผันผวน จากเดิมที่มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2025 จะมีอัตราเติบโต 10-15% แต่ยอดขายรถยนต์สะสม 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม) ปีนี้ อยู่ที่ 495,001 คัน เติบโตเพียง 4% ส่วนยอดขายรวมสะสมกับที่เหลืออีก 2 เดือนสุดท้าย ยังคาดว่าปีนี้จะเป็นไปได้ที่ตลาดจะปิดตัวเลขที่ 600,000 คัน
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือรถอีวี สะสม 10 เดือน ปี 2025 อยู่ที่ 89,984 คัน ซึ่งมองว่าปีนี้จะมากกว่า 100,000 คันได้
โดยงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025 ยังคงเป็นสนามสำคัญในการกระตุ้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายของปีจากบรรดาค่ายรถยนต์ที่มาออกงาน
NISSAN X-TRAIL e-POWER e-4ORCE
ค่ายรถยนต์ข้ามชาติญี่ปุ่นก็นำรุ่นเรือธงในกลุ่มรถยนต์นั่งมาทำการตลาดส่งเสริมการขายต่อเนื่อง โดยมีไฮไลต์ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานอย่าง NISSAN X-TRAIL e-POWER e-4ORCE (นิสสัน เอกซ์-ทเรล อี-พาวเวอร์ อี-ฟอร์ส)
ทั้งนี้ จากปัจจัยมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2025 ก่อให้เกิดการแข่งขันของสงครามราคาที่รุนแรงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปเช่นเดิม เนื่องจากค่ายรถยนต์ข้ามชาติจีนนำเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมาจัดทำโปรโมชั่นราคา และยังส่งผลให้ค่ายรถยนต์ข้ามชาติอื่น ๆ ก็ต้องมีการสู้กลับในด้านการแข่งขันราคา
MG IM5 EV
DFSK E5 Plus PHEV
Jaecoo J6T EV
Geely EX2
สนามหลักในตลาดรถยนต์อีวีจีนยังคงเป็นกลุ่มเอสยูวี โดยมีรุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในงานอย่าง MG IM5 EV (เอ็มจี ไอเอ็ม 5 อีวี), DFSK E5 Plus PHEV (ดีเอฟเอสเค อี 5 พลัส พีเอชอีวี), Jaecoo J6T EV (เจคู่ เจ 6 ที อีวี), Geely EX2 (จีลี่ อีเอ็กซ์ 2)
MG eTerron 9
GWM Poer Sahar Diesel
ตลาดรถกระบะของค่ายจีนจะมีที่เพิ่งเปิดตัวในงานอย่าง MG eTerron 9 (เอ็มจี อีเตอรอน 9) และ GWM Poer Sahar Diesel (เกรท วอลล์ มอเตอร์ โพเออร์ ซาฮาร์ ดีเซล) อย่างไรก็ตามเจ้าตลาดกลุ่มเครื่องยนต์สันดาปของค่ายญี่ปุ่นก็ยังเป็นพอร์ตหลักสำหรับตลาดรถกระบะ เพราะสามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของผู้บริโภคในกลุ่มรถกระบะได้ดีกว่า
ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี – MPV) หรือรถยนต์ครอบครัวประตูสไลด์ ที่ปกติเป็นตลาดลูกค้าเฉพาะเจาะจง ในงานปีนี้พบว่ามีการเปิดตัวรุ่นใหม่กันอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตจากกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง กอปรกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
Honda StepWGN e:HEV
โดยค่ายข้ามชาติญี่ปุ่นอย่างฮอนด้าได้เปิดตัวรุ่นใหม่ของ Honda StepWGN e:HEV (ฮอนด้า สเต็ปวากอน อี:เอชอีวี) ส่วนโตโยต้า ยังคงมุ่งทำตลาดด้วยรุ่น Toyota Alphard (โตโยต้า อัลฟาร์ด) นิสสัน ด้วยรุ่น Nissan Serena e-POWER (นิสสัน เซเรนา อี-พาวเวอร์) ฮุนได ด้วยรุ่น Hyundai Staria Essence Diesel (ฮุนได สตาเรีย เอสเซนส์ ดีเซล)
Wuling Starlight EV
GWM Wey G9 Hi 4 PHEV
ขณะที่ค่ายข้ามชาติจีนยังคงวางตำแหน่งในตลาดรถครอบครัวประตูสไลด์ด้วยพอร์ตรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกับตลาดรถยนต์นั่งและรถกระบะ ซึ่งที่เปิดตัวครั้งแรกในงานจะมี Wuling Starlight EV (วู่หลิง สตาร์ไลท์ อีวี), GWM Wey G9 Hi 4 PHEV (เกรท วอลล์ มอเตอร์ เวย์ จี 9 ไฮ 4 พีเอชอีวี) ที่จะมาชนโดยตรงกับค่ายร่วมชาติที่ทำตลาดอยู่เดิมอย่าง MG Maxus EV (เอ็มจี แม็กซัส อีวี), BYD Denza D9 EV (บีวายดี เดนซ่า ดี 9 อีวี), GAC M8 PHEV (จีเอซี เอ็ม 8 พีเอชอีวี)
BMW iX LCI EV
Volvo XC60 PHEV
ส่วนกลุ่มตลาดรถยนต์หรู หลายค่ายยังคงเสริมแกร่งในพอร์ตรถยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่อง ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานอย่าง BMW iX LCI EV (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์ แอลซีไอ อีวี), Volvo XC60 PHEV (วอลโว เอ็กซ์ซี 60 พีเอชอีวี)
การคาดการณ์เป้าหมายยอดจองภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025 ผู้จัดยอมรับว่ามองยาก จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่กล่าวไปข้างต้น และการเก็บข้อมูลผู้บริโภคในกลุ่ม B+ หรือผู้ที่มีระดับรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน พบว่าได้มีการตัดสินใจซื้อรถยนต์คันที่ 2 ไปในปีก่อนหน้าแล้วจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในปีนี้กลุ่มนี้ยังคงพอมีอยู่บ้างแต่อาจจะลดลง และมีผู้ที่ซื้อรถเป็นคันแรกมากขึ้นที่มีความกังวลหลายด้าน
นอกจากนั้น การจัดงานในปีนี้ ได้มีการปรับรูปแบบกิจกรรม โดยขอความร่วมมือผู้ร่วมออกบูธให้คำนึงถึงความเหมาะสมในการจัดกิจกรรม และการแต่งกายของพริตตี้ เพื่อให้ภาพรวมของงานมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน