แกรนด์โฮม รีแบรนด์ รับธุรกิจค้าปลีก ตั้งเป้าปี 62 รายได้ทะลุ 5, 200 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจขายโครงการ 70% ธุรกิจค้าปลีก 30% ทั้งนี้ภายใน 5 ปี จะทุ่มงบ 6,000 ล้านบาท เปิดสาขาเพิ่มอีก 200 สาขาทั่วประเทศ
ปรับภาพลักษณ์ สู่ Retail
ประไพ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันแกรนด์โฮมขับเคลื่อนด้วย 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจขายโครงการ และธุรกิจขายปลีก มาเป็นเวลากว่า 38 ปี โดยในปีนี้ เราคาดว่าแกรนด์โฮมจะมีรายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ระหว่างธุรกิจขายโครงการและธุรกิจขายปลีกอยู่ที่ 70 : 30”
เห็นได้ว่าสัดส่วนค้าปลีกนั้นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้แกรนด์โฮมเดินหน้าปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ จากธุรกิจขายโครงการสู่ค้าปลีก โดยปัจจุบันลูกค้าโครงการของแกรนด์โฮมคือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่นับจากนี้แกรนด์โฮมมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่ทุกระดับ ได้แก่ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ผู้ออกแบบ, เจ้าของบ้าน และผู้รับเหมา
โดยจะเริ่มต้นจากการปรับบรรยากาศภายในสาขาให้น่าเดินมากขึ้น รวมถึงมีการแบ่งหมวดหมู่ที่ชัดเจน ซึ่งแต่ก่อนแกรนด์โฮมไม่ได้มีการแบ่งหมวดหมู่ที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสินค้าอีก 5,000 SKUs จากเดิมมีสินค้า 60,000 SKUs ซึ่งเพิ่มเติมหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า แสงสว่าง สี Wall & Door เข้าไป เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังได้มีการแบ่งธุรกิจที่ชัดเจนของโชว์รูมแกรนด์โฮมแต่ละประเภท ได้แก่ Concept, Variety และ Outlet ซึ่งแต่ละประเภทสามารถตอบสนองลูกค้าได้ทั้ง 4 กลุ่ม โดยแต่ละประเภท จะแบ่งได้ดังนี้
Concept ที่งามวงศ์วานรองรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ออกแบบ ด้วยรูปแบบการจัดเรียงสินค้าที่เอื้อต่อการสร้างไอเดียและแรงบันดาลใจ
Variety ที่บางนา รัตนาธิเบศร์ และรามอินทรานั้น เน้นความหลากหลายของสินค้าไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ห้องน้ำ ห้องครัว ไลต์ติ้ง พร็อพตกแต่ง และดีไอวาย
Outlet ที่บางบัวทอง ศรีนครินทร์ และกระทิงลาย (ชลบุรี) เน้นสินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับลูกค้ากลุ่มช่าง ผู้รับเหมารายย่อย หรือเจ้าของบ้าน
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แกรนด์โฮมสามารถจัดแคมเปญ และโปรโมชั่นให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นทั้งยังช่วยในเรื่องของการรับรู้แก่แบรนด์ของแกรนด์โฮมอีกด้วย
ตั้งเป้า 5 ปีขยายจาก 10 สู่ 200 สาขา
นอกจากการปรับภาพลักษณ์เพื่อสร้างการรับรู้แล้ว แกรนด์โฮมยังได้ตั้งเป้าหมายที่จะปรับสัดส่วนรายได้เป็น 60 : 40 โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,200 ล้านบาท
ด้านการขยายสาขาในปี 2562 ตั้งงบขยายสาขาไว้ที่ 300 ล้านบาท จำนวน 10 สาขา พร้อมอัดงบ Marketing อีกจำนวน 200 ล้านบาทเพื่อสร้างการรับรู้ไปพร้อมกับการเปิดสาขา
‘แต่นั่นยังไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมด เป้าหมายคือการเปิดสาขาให้ครบ 200 สาขาภายในอีก 5 ปี โดยใช้งบลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท มีขนาดตั้งแต่ 500-3,000 ตารางเมตร ครอบคลุมทั่วประเทศ และในอนาคตคาดการณ์ว่า สัดส่วนธุรกิจขายโครงการและธุรกิจขายปลีกอยู่ที่ 30 : 70″ ประไพกล่าวเพิ่มเติม
–