กลุ่มบริษัทอิตัลไทย โชว์ผลประกอบการปี 61 เผยอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงเป็นแก่นหลักของธุรกิจ ชูกลยุทธ์ขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 1.5 หมื่นล้าน
ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย (ITALTHAI) เปิดเผยว่า ธุรกิจที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัทฯ คือ อุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากวิจัยกรุงศรีระบุว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัว 7-9% จากโครงการ EEC ส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ททท. คาดการณ์ว่าปี 2561 จะเติบโตถึง 9.6% ทั้งหมดส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของ อิตัลไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยปี 2561 ยุทธชัยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวม 13,435 ล้านบาท (ณ สิ้นปี) เติบโต 17%
ยุทธชัยกล่าวอีกว่า ในปี 2562 ภาพรวมธุรกิจจะมีรายได้ 15,030 ล้านบาท เติบโต 12% แบ่งเป็นรายได้ของกลุ่มอุตสาหกรรมวิศวกรรมและการก่อสร้าง 9,400 ล้านบาท คิดเป็น 63% และกลุ่มธุรกิจการบริการและไลฟ์สไตล์ 5,630 ล้านบาท คิดเป็น 37%
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทอิตัลไทยแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ (1) ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก ประกอบด้วย บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด (2) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรรมบริการและไลฟ์สไตล์ โดยมี ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เป็นบริษัทจัดการแบรนด์โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และสปา และ (3) ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย บริษัท อิตัลไทยฮอสพิทาลิตี้ จำกัด กับ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและงานวิศวกรรม
สกล เหล่าสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2561 คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งปี 5,889 ล้านบาท โตจากปีที่ผ่านมา 45% ทั้งนี้ยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอีก 45 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 11,000 ล้านบาท
สกลกล่าวถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจปี 2562 ว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ที่เป็น New S-Curve อาทิ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid), ระบบไฟฟ้าและเครื่องกลที่เกี่ยวข้องกับโครงการคมนาคมและการขนส่ง, งานก่อสร้างโรงงานและระบบสาธารณูปโภค ส่วนของนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EEC, การก่อสร้างคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ (Automated Warehouse) รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ Smart Solution ต่างๆ อีกทั้งมีแผนขยายการลงทุนไปประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว
สกลคาดการณ์ว่า ปี 2562 จะมีรายได้อยู่ที่ 6,100 ล้านบาท โต 5% เนื่องมาจากโครงการที่กำลังจะลงทุนและทิศทางอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีแนวโน้มดีขึ้น
ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก
อดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 บริษัทฯ วางกลยุทธ์เพิ่มยอดขายในงานกลุ่มถนนมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่และเปิดกว้างในการลงทุน และสอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งนี้ยังได้มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ชื่อ “พาวเวอร์ เคิร์บเบอร์ แอนด์ พาวเวอร์ เพฟเวอร์” รถคอนกรีตนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากแบรนด์ใหม่ที่ได้เปิดตัวไป บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ “วอลโว่ ซีอี” (Volvo Construction Equipment) จากประเทศสวีเดน และ “ทาดาโน่” จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองแบรนด์คือรายได้หลัก และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า คืองานเหมืองและโรงโม่หินกับงานกลุ่มถนน
ส่วนผลประกอบการในปี 2561 อิตัลไทยอุตสาหกรรมมีรายได้รวมประมาณ 2,700 ล้านบาท โต 7% จากปีก่อน และในปี 2562 คาดว่าจะมีรายได้ 3,300 ล้านบาท เติบโต 22%
อดิศร์กล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์บริการอีก 2 แห่งในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 14 แห่ง นอกจากนี้ยังได้เพิ่มรุ่น “วอลโว่ ลิจิด ฮอล์เลอร์” เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้เครื่องจักรกลหนัก
ธุรกิจไลฟ์สไตล์
จารุวรรณ สัจจาวุธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยฮอสพิทาลิตี้ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจบริการ อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงตั้งเป้าเป็น HORECA Solution Provider ผ่านการขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจเครื่องดื่ม โดยเฉพาะไวน์และน้ำแร่ เพื่อเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
ด้านกลยุทธ์การดำเนินงาน ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวน้ำแร่ธรรมชาติแบรนด์ “โอจู” (Oegu) จากประเทศฝรั่งเศส และได้มีการขยายสาขาร้าน TWG Tea ที่ ICONSIAM โดยปี 2561 บริษัทมีรายได้ 300 ล้านบาท โต 7% จากปี 2560
จารุวรรณกล่าวอีกว่า ปี 2562 บริษัทฯ จะขยายตลาดโดยมุ่งไปที่ 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจไวน์ การทำธุรกิจจัดเลี้ยง การขยายธุรกิจเบเกอรี่ และการขยายธุรกิจซักรีด โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจซักรีด เนื่องจากมองว่าโรงแรมส่วนใหญ่ไม่มีแผนกซักรีดเป็นของตัวเอง จึงเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะสร้าง Laundry Automation เน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และพัทยา คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการช่วงไตรมาสที่ 4/62 จากทั้งหมดทำให้คาดว่าปี 2562 บริษัทจะทำรายได้รวมที่ 360 ล้านบาท เติบโต 20%
ส่วน ลินดา เซง กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ริเวอร์ซิตี้ มุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดกับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและงานศิลปะต่างๆ อีกทั้งที่ผ่านมายังได้รีโนเวตพื้นที่ชั้น 2 ให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัย
อย่างไรก็ตาม ลินดาคาดการณ์ว่า ปี 2562 จะมีรายได้โตขึ้น 20% แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการอื่นๆ
ธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ
ดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปี 2561 บริษัทฯ ได้เปิดโรงแรมและเซอร์วิสเพิ่มในปีนี้อีก 6 แห่ง ได้แก่ ชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ, อมารี วังเวียง (สปป.ลาว), ชามา ไอส์แลนด์ นอร์ธ ฮ่องกง, ชามา ต้าชิ่ง เฮยหลงเจียง (จีน) และ ชามา ฉางเฟิง เซี่ยงไฮ้ (จีน)
ดักลาสกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังได้จับมือกับบริษัทต่างๆ อาทิ เจอาร์ คิวชู (ญี่ปุ่น), ซินเซีย โฮลดิงส์ กรุ๊ป (จีน), พานชิล เรียลตี้ จำกัด (อินเดีย), เอสพี เซเทีย จำกัด (มาเลเซีย) และได้ร่วมทุนก่อสร้างกับกลุ่มบริษัทตั้งเจริญ
ปัจจุบันออนิกซ์ฯ มีโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ในเครือที่เปิดให้บริการ 50 แห่งใน 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย จีน มาเลเซีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ กาตาร์ สปป.ลาว และบังกลาเทศ อีกทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 30 แห่ง
โดยสัดส่วนโรงแรมในเครือที่เปิดให้บริการในประเทศไทยและต่างประเทศอยู่ 50:50 แต่สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 60:40 (ไทย:ต่างประเทศ) บริษัทฯ จึงตั้งเป้าเปลี่ยนสัดส่วนรายได้ของโรงแรมในเครือให้เป็น 55:45 ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
ดักลาสตั้งเป้าว่า ปี 2562 บริษัทฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 16% หรือคิดเป็น 4,900 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2561 มีรายได้อยู่ที่ 4,224 ล้านบาท
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ