RICOH รุกหนักตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน ชูจุดแข็งดิจิทัลโซลูชั่น
ริโก้ (RICOH) ประเทศไทย วางคอนเซ็ปต์ “Dynamic Workplace Intelligence” เครื่องถ่ายเอกสารยุคใหม่ต้องเป็นมากกว่าแค่มัลติฟังก์ชัน ต้องเติมความ ‘อัจฉริยะ’ ด้วยดิจิทัลโซลูชันด้านซอฟต์แวร์ รวมถึงระบบประมวลผล (Ai) เพื่อให้เครื่องถ่ายเอกสารยุคใหม่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากขึ้น
เดินเกมรุก!
เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน ‘IM C Series’ 6 รุ่น
พรชัย วรอังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและบิสซิเนสโซลูชันส์ บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ในเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ย่อมต้องปรับกระบวนการทำงานใหม่ รวมถึง งานด้านเอกสารและการจัดการข้อมูล
“ปัจจุบัน ริโก้ ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดด้านเครื่องถ่ายเอกสาร* มาอย่างต่อเนื่อง ปี 2018 สามารถครองส่วนแบ่งตลาดรวมอยู่ที่ 32% แบ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสี 35% และเครื่องขาวดำ 30%” (*ข้อมูลจาก: IDC, 2018)
เพราะการเป็นผู้นำ ยิ่งต้องปรับตัวไว…
“เชื่อว่ายุคนี้เราจำเป็นต้องนำเอาเทคโนโลยีใหม่และ AI เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลและประมวลผลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษให้เป็นข้อมูลดิจิทัลเพื่อจัดเก็บและส่งต่อ ความปลอดภัยในการส่งและรับข้อมูล รวมถึงเรื่องสำคัญอย่างการจัดการต้นทุนที่คุ้มค่า”
ล่าสุด ริโก้ ได้เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสี A3 รุ่นใหม่คือ ‘IM C Series’ ออกสู่ตลาดด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ IM C2000/C2500/C3000/C3500/C4500/C6000 มีความเร็วในการพิมพ์ 20/25/30/35/45/60
ความโดดเด่นอยู่ที่ดิจิทัลโซลูชันหรือซอฟต์แวร์ที่ติดมากับตัวเครื่อง เช่น Ricoh Always Current Technology ระบบอัพเดตความสามารถการทำงานเครื่องให้ใหม่อยู่เสมอ
RicohSmart Integration ระบบแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกันบนคลาวด์ เช่นRicoh Automated Data Capture แอปสำหรับแปลงข้อมูลเอกสารในรูปของกระดาษเป็นดิจิทัลไฟล์ได้แบบอัตโนมัติ และส่งต่อไปยังคลาวด์แอปสำหรับแปลงข้อมูลเอกสารในรูปของกระดาษเป็นดิจิทัลไฟล์ได้แบบอัตโนมัติ และส่งต่อไปยังคลาวด์เพื่อประมวลผลข้อมูลต่อได้ทันทีเพื่อลดทั้งเวลาและต้นทุน
รวมถึงการปรับปรุงตัวเครื่องให้เหมาะแก่การใช้งานแบบมัลติฟังก์ชันเต็มขั้น เริ่มที่หน้าจอแบบ Smart Operation Panel ขนาด 10.1 นิ้ว ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเครื่องด้วยการสั่งผ่านหน้าจอได้สะดวกเพียงปลายนิ้ว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน EZ Plus 2.0 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเอกสารให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
ตัวเครื่องยังมีลูกเล่นเสริมอย่างชุดพับกระดาษอัตโนมัติที่ช่วยสร้างโบรชัวร์ ใบปลิว ได้จบในเครื่องเดียว นอกจากนั้น ยังมีระบบสแกนเอกสารขนาดเล็กพิเศษเพื่อใช้กับเช็คธนาคารหรือใบเสร็จ ซึ่งล้วนแต่เป็นเอกสารสำคัญของการดำเนินธุรกิจ
เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ด้วยระบบหลังการขายอัจฉริยะ
เพื่อให้งานไม่สะดุดหรือรอช่างให้เสียเวลา ทาง ริโก้ มีระบบบริการหลังการขายผ่านทางคอลเซ็นเตอร์จากระยะไกลซึ่งสามารถรีโมทเข้าหน้าจอเครื่องหลังจากได้รับอนุญาตจากลูกค้าเพื่อให้คำเเนะนำหรือเเก้ปัญหาเบื้องต้นได้ทันที รวมถึงยังมีคู่มือการใช้งานในรูปเเบบของ QR Code เพียงเเค่สเเกนด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็สามารถทำตามขั้นตอนเเละใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวกสบาย
เเละที่ไฮไลท์ คือ ทางทีมวิศวกรของริโก้ยังสามารถตรวจเช็คสถานะหมึกและอะไหล่ต่างๆ ได้เเบบออนไลน์ เพื่อได้ทราบว่าตัวเครื่องมีความจำเป็นจะต้องบำรุงดูแลรักษาในเรื่องใดหรือต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่และหมึกหรือไม่ พร้อมเเจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้เจ้าของเครื่องเพื่อดำเนินการเเก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องรุ่นใหม่ IM C Series และ Dynamic Workplace Intelligence คลิกที่ https://www2.ricoh.co.th/ หรือหากสนใจทดลองใช้งานเครื่องจริงสามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่Ricoh Experience Center ชั้น 6 True Digital Park ใกล้สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
