อาจไม่ยังถึงกับร่วงแต่ WeWork อดีตบริษัทดาวรุ่งที่ทำให้โลกรู้จักกับธุรกิจแบ่งพื้นที่สำนักงานให้เช่า (Co-working Space) ก็กำลังระส่ำระสายอย่างหนัก โดยหลังสัปดาห์ที่แล้ว Adam Neumann ประธานบริหาร (CEO) และผู้ร่วมก่อตั้งถูกบีบให้ลาออก ล่าสุด WeWork ประกาศเลื่อนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก (IPO) ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพียงว่าจะหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจหลัก
Adam Neumann
ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของ WeWork ครั้งนี้มีที่มาจากหลายปัญหาที่ประดังเข้ามา ทั้งการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อ Model ธุรกิจที่เช่าอาคารระยะยาวแล้วมาแบ่งปล่อยเช่าในระยะสั้นว่าจะทำกำไรได้ระยะยาวได้หรือไม่ ตัวเลขขาดทุนครึ่งแรกของปีนี้ที่สูงถึง 904 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 28,000 ล้านบาท) แล้ว
และปัญหาธรรมาภิบาลในองค์กร ที่อดีต CEO คนก่อนเอาคนในครอบครัวหลายคนมานั่งเก้าอี้คณะกรรมการบริษัท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภรรยาตัวเอง
ขณะเดียวกันบริษัท Co-working Space อายุ 9 ปีแห่งนี้ ยังมีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะอดีต CEO ที่พ้นจากตำแหน่งไม่ถึงสัปดาห์ นำอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองมาปล่อยให้บริษัทเช่า
ทั้งหมดทำให้มูลค่าบริษัทลดลงมาอยู่ที่เพียงระหว่าง 10,000 ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 310,000 ถึง 620,000 ล้านบาท) เท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยสูงถึง 47,000 (ราว 1.4 ล้านล้านบาท)
Artie Minson (ซ้าย) และ Sebastastain Guningham (ขวา)
มีการวิเคราะห์กันว่า Artie Minson และ Sebastastain Guningham-CEO คู่ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้ง ต้องเร่งกอบกู้สถานการณ์ของ WeWork ด้วยการแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาต่างๆ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกลับมาทำ IPO ให้ได้
หลังจากที่ได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นไปแล้ว อย่างขายเครื่องบินส่วนตัวของ CEO ปรับโครงสร้างบริษัท และปลดพนักงานไปแล้ว 5,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของทั้งองค์กร
วิกฤตของ WeWork เกิดขึ้นท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นกลุ่มบริษัทเกิดใหม่ในเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ซึ่งสร้าง Platform ขึ้นมารองรับการเช่าทำธุรกิจและแบ่งช่วงเวลาในการใช้บริการในธุรกิจด้านอื่นอีกด้วย
Uber และ Lyft-App เรียกแท็กซี่สัญชาติอเมริกันที่เป็นคู่แข่งกัน ซึ่ง IPO ไปเมื่อต้นปี แต่ปัจจุบันราคาหุ้นลดลงถึง 1 ใน 3 และเกือบครึ่งหนึ่งตามลำดับ
ด้าน Airbnb อีกหนึ่งบริษัทในกลุ่ม Sharing Economy ที่นำอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านหรือที่พักต่างๆ มาแบ่งให้ลูกค้ามาพักแบบโรงแรม ซึ่งใกล้เคียงกับ WeWork จนถูกจับตามองอย่างมากว่าจะเกิดวิกฤตหรือไม่ เบื้องต้นยังยืนยันว่าธุรกิจยังเดินหน้าได้ตามเป้า
เพราะมีผู้มาใช้ Platform ที่พักรวมห้องและบ้านที่อยู่ในระบบมากถึง 7 ล้านแห่งในมากกว่า 100,000 เมืองทั่วโลกกัน และมีผู้ใช้สูงถึง 8.2 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น แผน IPO ในปีหน้าจึงยังไม่เปลี่ยนแปลง/ bbc, cnn, cnbc, reuters, theguardian
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
