Fitbit Versa2 ขุนพลใหม่ที่จะเจาะตลาดสมาร์ทวอตช์ให้ Fitbit ผ่านการนอน (วิเคราะห์)

จากข้อมูลของจีไอเอสพบว่าตลาดสมาร์ทวอตช์ในปีนี้คาดการณ์เติบโตมากถึง 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

การเติบโตอย่างกระโดดมีปัจจัยที่สำคัญมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคดังนี้

1. คนไทยหันมาสนใจสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น และนิยมเก็บข้อมูลการออกกำลังกายเพื่อช่วยตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรีสามารถเบิร์นได้ในช่วงออกกำลังกาย และอื่นๆ เพื่อนำไปดูและพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น

2. การเติบโตของกระแสการวิ่ง ที่ทำให้นักวิ่งนิยมซื้อสมาร์ทวอตช์เพื่อช่วยเก็บสถิติและระยะทางการวิ่ง และใช้อวดเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์เมื่อวิ่งเก็บสถิติได้ดี

3. ผู้บริโภคบางกลุ่มนิยมใช้สมาร์ทวอตช์เป็นเหมือนนาฬิกาที่ช่วยส่งเสริมให้บุคลิกมีความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคล่องตัวในการติดต่อสื่อสาร เพราะสมาร์ทวอตช์สามารถแสดงข้อมูลการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านหน้าปัดนาฬิกา โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดดู

4. คนทำงานบางกลุ่มเห็นสมาร์ทวอตช์เป็นเครื่องช่วยลดความเครียด และการเกิดออฟฟิศซินโดรมจากการนั่งทำงานนานๆ เพราะสมาร์ทวอตช์ในบางรุ่นเตือนให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถต่างๆ หรือเตือนให้สูดหายใจเข้าออกเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น

เมื่อพฤติกรรมและตลาดสมาร์ทวอตช์ในไทยมา ทำให้แบรนด์สมาร์ทวอตช์ต่างมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญ และนำสมาร์ทวอตช์รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดผ่านกลยุทธ์การตลาดในแบบฉบับของตัวเอง

อย่างเช่น แอปเปิ้ลวอตช์ และซัมซุงขายความเป็นอีโคซิสเต็ม เชื่อมต่อการทำงานระหว่างสมาร์ทวอตช์และสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ ที่เป็นแบรนด์เดียวกัน

กามิน มีภาพลักษณ์เป็นสมาร์ทวอตช์สำหรับผู้ที่เน้นการออกกำลังกาย ก็ได้ขยายตลาดไปยังแฟชั่นและผู้สูงวัยด้วยการออกแบบสมาร์ทวอตช์ให้มีดีไซน์เรียบหรูกึ่งสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้าเข้าจับตลาดนาฬิกาเพื่อสุขภาพในกลุ่มไฮเอนด์ผ่านสินค้าในรุ่นต่างๆ มากขึ้น

ส่วนฟิตบิท เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่มองเห็นตลาดประเทศไทยมีความสำคัญติดหนึ่งใน 3 ของเอเชียแปซิฟิก

โดยการตลาดของฟิตบิท ประเทศไทย จะเน้นการสร้างรายได้จาก

– จับมือกับพาร์ตเนอร์เสนอสินค้าราคาพิเศษ อย่างเช่น จับมือกับเอไอเอ มอบส่วนลดให้กับลูกค้าเอไอเอไวทัลลิตี้ ที่ซื้อฟิตบิทเพื่อติดตามสุขภาพผ่านโปรแกรมที่เอไอเอไวทัลลิตี้กำหนด

– จำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย อย่างเช่น พาวเวอร์บาย ดอทไลฟ์ และลาซาด้า

– นำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาสู่ตลาดอยู่เสมอ โดยล่าสุดได้นำ Versa2 เข้ามาต่อยอดไลน์สินค้าตระกูลFitbit Versa

โดยFitbit Versa2 มีจุดเด่นคือ เพิ่มฟังก์ชันติดตามการนอน จับการหยุดหายใจระหว่างนอน ที่เป็นฟีเจอร์ที่จะเปิดตัวในอนาคต เข้ามาเป็นส่วนเสริมที่จะดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อFitbit Versa2 แทนคู่แข่ง บางแบรนด์ที่ผู้ใช้จะต้องเป็นผู้ดาวน์โหลดแอปเพื่อมาใช้งานเอง

นอกจากนี้ ฟิตบิทยังได้สร้างจุดต่างจากคู่แข่งไปพร้อมๆ กับขยายรายได้ ด้วยการเปิดบริการFitbit Premium ซึ่งเป็นแอปที่เก็บข้อมูลสุขภาพเฉพาะบุคคลที่เป็นข้อมูลเชิงลึกพร้อมคำแนะนำด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย

โดยFitbit Premium คิดค่าบริการสำหรับผู้ใช้ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี

ซึ่งบริการFitbit Premium เป็นบริการที่ทำให้ฟิตบิทสามารถขยายฐานรายได้จากเดิมที่มีรายได้จากการจำหน่ายดีไวซ์เพียงอย่างเดียวได้

และการเปิดตัวของ Fitbit Premium นอกจากจะได้ทั้งรายได้และสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่มากขึ้นของลูกค้าฟิตบิทแล้ว

ฟิตบิทยังได้ดาต้าเบสของลูกค้า และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การนอน และการปรับตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาสินค้าและแอปพลิเคชันให้บริการอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้ายิ่งขึ้น

ซึ่งถ้าการทำตลาดผ่านการนอน และกลุ่มลูกค้าองค์กร ด้วยการจับมือกับเอไอเอ เพื่อมอบการนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย ได้วางตัวเองเป็นความแตกต่างจากแบรนด์อื่นคือ มีดาต้าเชิงลึกของผู้ใช้ และนำมาวิเคราะห์พัฒนาสินค้าและซอฟต์แวร์ตอบสนองผู้ใช้งานอีกที

Marketeer FYI

ตลาดสมาร์ทวอตช์โลกในไตรมาส 2 ปี 2019 อ้างอิงจาก Strategy Analytics พบว่ามียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 12.3 ล้านเรือน เติบโต 44% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่มียอดจำหน่าย 8.6 ล้านเรือน

เมื่อดูจากส่วนแบ่งสมาร์ทวอตช์ในตลาดโลกพบว่า ในไตรมาสสองที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทวอตช์โลก แอปเปิ้ลวอตช์ยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 46.4% ซัมซุง มีส่วนแบ่งตลาด15.9% แซงหน้าฟิตบิทขึ้นเป็นอันดับ 2

และฟิตบิทตกลงไปเป็นอันดับ 3 ส่วนแบ่งตลาด 9.8%