“ธุรกิจรับสร้างบ้าน” หนึ่งในเซกเมนต์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมของเศรษฐกิจปีนี้พอสมควร โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกสร้างบ้าน
แม้จะได้รับผลกระทบแต่ในปีนี้ก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการทำโปรโมชั่นของผู้ประกอบการต่างๆ ในช่วงปลายปี ประกอบกับทั้งตลาดในต่างจังหวัดมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นทำให้ตัวเลขภาพรวมยังคงมีการขยายตัวได้
ศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2562 ยังเติบโตต่อเนื่อง มูลค่าตลาดรวมปีนี้แตะ 12,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดโตคือ บ้านระดับกลางบนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งสัดส่วนของบ้านในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มเช่นกัน
ขณะที่ปีหน้ามั่นใจว่าตลาดยังเติบโตได้ 5-7% มีมูลค่า 13,000-13,500 ล้านบาท
“จากการสำรวจยอดขายภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ 2019 พบว่า บ้านระดับราคา 5.01-10 ล้านบาท ยังคงมีสัดส่วนสูงสุดคือ 28.71% รองลงมาคือบ้านระดับราคา 20.01 ล้านบาทขึ้นไป 23.98% และบ้านระดับราคา 10.01-20 ล้านบาท ที่ 23.88%
ขณะที่กำลังซื้อในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2560 สัดส่วนของการปลูกสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัดจะอยู่ที่ 90:10% ปี 2561 สัดส่วนปรับเป็น 80:20% ในปีนี้สัดส่วนในต่างจังหวัดยังคงมีปริมาณมากขึ้นมาอยู่ที่ 75:25%”
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังระบุอีกว่า การที่ตลาดในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้นมีเหตุผลมาจากบริษัทรับสร้างบ้านหลายบริษัทขยายการทำธุรกิจไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพมากขึ้น ประกอบกับกลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัดเริ่มมีความเชื่อมั่นและหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแทนกลุ่มผู้รับเหมาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงในส่วนของกฎหมายภาษีที่ดินที่เจ้าของที่ดินต้องมีการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ทำให้ในปีนี้มีลูกค้าที่มีที่ดินในต่างจังหวัดหันมาปลูกสร้างบ้านเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับปี 2563 ตั้งเป้าภาพรวมตลาดน่าจะเติบโตได้อีก 5-7% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 13,000-13,500 ล้านบาท โดยบ้านระดับกลางบนน่าจะยังเป็นตัวนำตลาดเช่นเดิม ขณะที่ตลาดในต่างจังหวัดคิดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ