ตลาดน้ำอัดลม 2563 มูลค่าเท่าไร ? พร้อมวิเคราะห์กลยุทธ์ เป๊ปซี่ แค่อีเวนต์อาจยังไม่พอ

ตลาดน้ำอัดลมที่มีผู้เล่นหลักอยู่ 3 ราย ก็พาตลาดโตเหมือนกันนะ

เพราะปีที่ผ่านมาตลาดน้ำอัดลมเติบโต 12%

มีมูลค่าอยู่ที่ 56,000 ล้านบาท จากที่ปีก่อนหน้าอยู่ที่ราว 50,900 ล้านบาท

โดยในตลาดน้ำอัดลมนี้ “ตลาดน้ำดำ” โตที่สุด

แล้วถามว่าช่วงไหนเป็นช่วงพีคสุดๆ ของตลาดน้ำอัดลม คำตอบคือ “หน้าร้อน” ที่ผู้บริโภคเลือกดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความสดชื่น ดับกระหาย ตลาดหน้าร้อนจึงเป็นช่วงที่สร้างยอดขายได้มากที่สุด

นอกจากในแบรนด์เดียวกันที่ต้องแข่งขันกันเอง เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ชอบดื่มน้ำอัดลมหลุดไปซื้อน้ำอัดลมของคู่แข่งมาดื่ม แน่นอนว่าแต่ละแบรนด์เองก็ต้องแข่งขันกันออกผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่มาจูงใจผู้บริโภคที่ชอบดื่มน้ำอัดลมด้วยเช่นกัน

รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ทุกวันนี้เราจึงเห็นน้ำอัดลมแต่ละเจ้าทำเครื่องดื่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลออกมาวางขายเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ล่าสุด “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)” ที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น-อัพ ชาลิปตัน เกเตอเรด น้ำดื่มอควาฟิน่า และกู๊ดมู้ด ที่ปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15.5%

เผย 3 กลยุทธ์ในปีนี้ที่ส่งแคมเปญออกมารับซัมเมอร์มาแย่งแชร์เพิ่มใน ตลาดน้ำอัดลม 2563 ทั้งน้ำดำ น้ำสี และน้ำใส สร้างความคึกคักให้กับตลาด

น้ำดำ

แน่นอนว่าคู่แข่งหลักคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือ “โค้ก” ที่ต่างแย่งกันเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดน้ำอัดลม โดยข้อมูลจากนีลเส็นพบว่า ปี 2561 “โค้ก” มีส่วนแบ่งการตลาด 35% เป็นอันดับ 1 ของตลาดน้ำอัดลม ขณะที่เป๊ปซี่เองนั้นหากคิดเฉพาะประเภทไม่คืนขวด (PET, กระป๋อง) นั้นเป๊ปซี่คือเจ้าตลาดที่ 45%

ปีนี้เป๊ปซี่ยังเดินเกมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการเป็นเจ้าอีเวนต์เหมือนทุกปี สร้างยอดขายผ่านแคมเปญการตลาดและกิจกรรมช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้

โดยเน้นเจาะกลุ่มภาคอีสาน ซึ่งเป็นภาคที่สร้างรายได้สูงกว่าภาคอื่นๆ รองจากในกทม.

น้ำสี

เขียว ส้ม แดง น้ำสีที่ดูสดใสในชื่อของ “มิรินด้า” ที่รู้อย่างแน่ชัดว่าตัวเองเป็นเบอร์ 2 มาตลอด เพราะเบอร์ 1 อย่างแฟนต้าครองส่วนแบ่งไปแล้วกว่าครึ่ง

ปีนี้เราจะได้เห็นภาพลักษณ์ของมิรินด้าที่ดูเด็กลงเพราะบริษัทแม่จะปรับภาพลักษณ์ทั้งหมดซึ่งน่าจะเห็นข่าวใหญ่ในช่วงกลางปี

ตลาดน้ำสีในปีนี้มิรินด้าขยายฐานลูกค้าด้วยการส่งรสชาติใหม่ “กรีนครีม” ลงสู่ตลาดหวังมัดใจกลุ่ม GenZ ที่เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมพร้อมเปิดรับสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา

น้ำสีไหนส่วนแบ่งเท่าไร

สีแดง 27%

สีส้ม 23%

สีเขียว 20%

สีอื่นๆ 30%

น้ำใส

เป็นตลาดที่น่าจับตา และน่าจะโตได้อีก เพราะในตลาดน้ำอัดลมสีใสแบรนด์คู่แข่งอย่างโค้กก็มี “สไปรท์” ส่วนเป๊ปซี่เองมี “7up” ส่วนเอสยังไม่มี

และเมื่อน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลเยอะผู้บริโภคก็เลยเลือกหันไปดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อยกว่า หรือเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลแทน

และเมื่อตลาดน้ำดำโคล่าก็มีผลิตภัณฑ์แบบปราศจากน้ำตาลแล้ว ทำไมในตลาดน้ำสีใสจะทำบ้างไม่ได้

ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราจึงเห็น “สไปรท์ 0%” ตีตลาด แล้วก็ดูเหมือนจะไปได้ดี ส่วนคู่แข่งอย่าง “7up” ที่ไม่ค่อยทำการตลาด อยู่เงียบๆ มาพักใหญ่ ปีนี้จึงออกมาท้ารบด้วยการส่ง “7up Free” ที่ปราศจากน้ำตาล ไม่มีสี ไม่มีคาเฟอีน ลงแข่งในตลาดเช่นกัน