กระแสการทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home และการเรียนออนไลน์ของสถาบันการศึกษาต่างๆ อาจทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีเติบโตกว่าปี 2562 จากความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์มากขึ้น
ลองคิดดูว่าแต่เดิมบางครอบครัวไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือมีเพียง 1 เครื่องใช้ร่วมกัน แต่การทำงานจากบ้านถ้าครอบครัวนั้นทำงานที่บ้าน 2 คน และต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ทั้งคู่ ทำให้ต้องตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เพิ่มเพื่อทำงาน แต่ถ้าครอบครัวนั้นมีเด็กวัยเรียน 2 คน ที่ต้องเรียนออนไลน์ บ้านนั้นจะต้องซื้อคอมพิวเตอร์เพิ่มอีก 2 เครื่อง เพื่อให้เด็กๆ ได้มีช่องทางในการเรียนหนังสือ
ที่ผ่านมาการทำงานที่ออฟฟิศ สำนักงานมีการจัดหาคอมพิวเตอร์ให้พนักงานใช้ประจำ และการเรียนในโรงเรียนของนักเรียนนักศึกษา ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านไม่มีความจำเป็นเท่าไรนัก นอกจากใช้เรื่องส่วนตัวเป็นหลัก
นอกจากนี้ การเข้าถึงสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือที่กลายเป็น New Normal ของคนไทยมามากกว่า 5 ปี ยิ่งทำให้คนไทยกลุ่มใหญ่มองว่าการมีคอมพิวเตอร์ที่บ้านอาจจะไม่ความจำเป็นเท่าไรนัก เนื่องจากสมาร์ทโฟนสามารถตอบโจทย์ในแง่ของการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ทำให้หลายปีที่ผ่านมาตลาดคอมพิวเตอร์มีการเติบโตแบบทรงๆ ตัวเป็นตัวเลขหลักเดียวมาตลอด และบางทีไม่มีการเติบโตแต่อย่างใด
ในปีที่ผ่านมาตลาดคอมพิวเตอร์มีการเติบโตเล็กน้อย ด้วยการเติบโตเพียง 3% จากยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 2.35-2.4 ล้านเครื่อง การเติบโตนี้มาจากตลาดโน้ตบุ๊กเป็นหลัก
โดยในปีที่ผ่านมาตลาดโน้ตบุ๊กมียอดจำหน่าย 1.175-1.2 ล้านเครื่อง เติบโต 7% จากคนไทยนิยมซื้อโน้ตบุ๊กเพื่อใช้งานจากราคาโน้ตบุ๊กที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น มีสเปกและเซกเมนต์ที่หลากหลายให้เลือก และพกพาสะดวก
ส่วนตลาดเดสก์ท็อป หรือคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ แม้จะมีสัดส่วนเท่ากับโน้ตบุ๊กด้วยยอดจำหน่าย 1.175-1.2 ล้านเครื่อง
ในปีที่ผ่านมาคอมพิวเตอร์ในกลุ่มเกมเมอร์และโน้ตบุ๊กในกลุ่มบางเบา เป็นสองกลุ่มที่สร้างการเติบโตด้านรายได้ จากราคาของคอมพิวเตอร์เตอร์ของทั้งสองเซกเมนต์มีราคาที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์อื่นๆ จากประสิทธิภาพในการใช้งานและดีไซน์
ส่วนในปีนี้การแข่งขันในตลาดคอมพิวเตอร์ในกลุ่มโน้ตบุ๊กยังคงให้ความสำคัญกับโน้ตบุ๊กเบาบางและมีหน้าจอหมุนได้มากขึ้นที่มาพร้อมกับดีไซน์และราคาที่ดึงดูดผู้บริโภค และบริการหลังการขาย เนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่เทคโนโลยี สเปกเครื่องไม่ต่างกันมาก
ตลาดคอมพิวเตอร์ในปีที่ผ่านมา เอเซอร์ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาด 21% ในตลาดคอมพิวเตอร์รวม
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ