ชาติเล็ก ๆ ในอเมริกาใต้อาจแซงหน้าหลายประเทศเรื่องการนำสกุลเงินคริปโตอันดับ 1 มาใช้ โดยประธานาธิบดี Nayib Bukele ของเอล ซัลวาดอร์ เผยว่าในเร็ว ๆ นี้จะเสนอเรื่อง Bitcoin มาใช้ทำธุรกรรมได้ตามกฎหมายให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งหาก ‘ได้ไฟเขียว’ เอล ซัลวาดอร์ จะเป็นประเทศแรกที่มี Bitcoin อยู่ในระบบการเงินของประเทศ
สาเหตุที่ประธานาธิบดี Nayib Bukele กล้าประกาศเรื่องนี้ผ่านระบบ Video Conference มายังงานสัมมนา Bitcoin ใหญ่สุดในโลกที่จัดขึ้นที่เมืองไมอามีของสหรัฐฯ วานนี้ เพราะพรรค Nuevas Ideas ของเขาครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอยู่แล้ว
ประธานาธิบดี Nayib Bukele
และเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศที่ต้องพึ่งพาการโอนเงินจากประชากรทำงานในต่างประเทศอย่างมาก
เรื่องนี้มีความน่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน เริ่มจากการที่ประเทศขนาดเล็กในอเมริกาใต้ ประชากรเพียง 6 ล้านคนจะมีเงินคริปโตไหลเวียนอยู่ในระบบการเงินแบบถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนประเทศใหญ่ ๆ ยังอยู่ในระหว่างศึกษาถึงผลดี-ผลเสียต่าง ๆ
ประเด็นต่อมาคือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในเอล ซัลวาดอร์ โดยเฉพาะการโอนเงินจากนี้ที่จะพัฒนาแบบก้าวกระโดด หลังติดขัดมานาน เพราะติดเรื่องค่าธรรมเนียมในการโอน
ประกอบกับประชากร 70% ของประเทศไม่มีบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต ดังนั้น เงินจากคนที่ไปงานต่างแดนราว 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 124,000 ล้านบาท) ต่อปี ซึ่งคิดเป็น 20% GDP ประเทศ จึงไหลเวียนเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ช้า
ประเด็นสุดท้ายคือการเมืองใน เอล ซัลวาดอร์ เพราะแม้ประธานาธิบดี Nayib Bukele วัย 39 ปีผลักดันประเทศให้มีความก้าวหน้า และใช้มาตรการเด็ดขาดกับกลุ่มอาชญากร
หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2019 และได้ครองเสียงในรัฐสภาเพิ่มอีกในเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อต้นปี แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเริ่มกลายเป็นเผด็จการ หลังสั่งปลดอัยการสูงสุดและผู้พิพากษาศาลสูงไปหลายคน จนรัฐบาลสหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือ/cnbc, bbc
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ