ร้องข้ามกำแพง รายการโดนใจ เพราะกระตุ้นความอยากรู้ของผู้ชม (วิเคราะห์)

ปิดฉากรายการ The Mask Singer รายการเพลงที่เวิร์คพ้อยท์ซื้อกรรมสิทธิ์มาจากประเทศเกาหลี และสามารถสร้างเรตติ้งสร้างช่องให้กับเวิร์คพ้อยท์เมื่อปีที่ผ่านมา   

มาต่อด้วยรายการ “ร้องข้ามกำแพงThe Wall Song  ซึ่งเป็นรายการของเวิร์คพ้อยท์คิดและผลิตขึ้นมาเอง

ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง เช่น ไม่มีการแข่งขัน ไม่ต้องโหวตให้คะแนน ไม่ต้องมีคอสตูมเวอร์วังอลังการ

แต่กลิ่นอายที่คล้ายกันคือเป็นรายการที่เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคนดู “ใครกันนะ”  โดยเปลี่ยนจากปริศนาในหน้ากากเป็นหลังกำแพง

ความดังของของรายการร้องข้ามกำแพงวันนี้ ถ้าวัดจากเรตติ้งและยอดวิวในยูทูบถือว่าเวิร์คพ้อยท์ WIN

ที่สำคัญรายการนี้กำลังสร้างทั้งกล่องและเงินให้กับบริษัท 

ที่ผ่านมาเวิร์คพ้อยท์ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์รายการเพลงมาหลายรายการ เช่น  X Factor, The Mask Singer, I Can See Your Voice

แต่ล่าสุด 7 ประเทศในยุโรปตอบรับการซื้อลิขสิทธิ์รายการร้องข้ามกำแพงในชื่อ The wall duet ไปผลิต ซึ่ง 7 ประเทศคือ ฝรั่งเศส, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, เยอรมนี และ โปรตุเกส

ในเอเชียมีประเทศเวียดนามประเดิมซื้อลิขสิทธิ์รายการไปผลิตเป็นประเทศแรก โดยทำการผลิตรวมทั้งหมด 19 ตอน ออกอากาศให้ได้ชมกันไปแล้ว ทางช่องยอดนิยมอันดับ 1 อย่าง VTV3 

ทำลายสถิติรายการเพลงก่อนหน้านี้ที่ขายดี คือ ไมค์หมดหนี้ ขายได้ 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย อินเดีย (รอผลิต)

จะว่าไปแล้วเวิร์คพอยท์ เป็นบริษัทที่ขายลิขสิทธิ์รูปแบบรายการทั้งแบบ finished programme และ format ได้มากที่สุดบริษัทหนึ่งใน South East Asia

ตั้งแต่ปี 2557 – ปัจจุบันขายรายการทั้งหมดไปได้รวมทั้งสิ้น 48 รายการ ไปใน 22 ประเทศ

ไอเดียที่จะถูกใจคนทั้งโลกไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่าย ๆ มาดูกันว่าวิธีคิดและเบื้องหลังการเกิด ของรายการ ร้องข้ามกำแพง เป็นอย่างไร  

ธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจและดาราราย ศรีจิตรแจ่ม ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตให้ข้อมูลกับ Marketeer ว่า 

ไอเดียของรายการนี้ ต้องยกเครดิตให้ “พี่จิก” ประภาส  ชลศรานนท์ นักคิด นักเขียน นักแต่งเพลง และผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัทเวิร์คพ้อยท์ เอนเทอร์เทนเม้นท์

เป็นรายการใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2563 ท่ามกลางความตึงเครียดของผู้คนในเรื่องโควิด-19 รอบแรก

โจทย์ของรายการจึงต้องเป็นรายการบันเทิงที่สนุกสนาน ดูง่าย ๆ ไม่เครียด ไม่ต้องคิดเยอะ ไอเดียที่ปังขึ้นมาของพี่จิกตอนนั้นก็คือ อยากเห็นดารามาร้องเพลงด้วยกันแบบฟีเจอริ่ง แต่มีกำแพงมากั้นไว้ และอีกฝ่ายต้องทายให้ถูก

แต่ทำอย่างไรให้สนุก

ทีมงานก็ต้องมาขยี้กันต่อในเรื่องการหาซุปตาร์ที่น่าสนใจทั้งหน้าและหลังกำแพง  เกมการหลอกจากซุปตาร์ที่เข้าร่วมรายการ รวมทั้งฝีมือในการตัดต่อที่ทำให้คนดูได้เห็นอารมณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ 

ความซนของทีมงานเริ่มหาไอเดียกันไม่ยั้ง ไม่ว่า จะหาดาราสายอำชอบหลอก การหาคู่ที่ไม่เคยร้องด้วยกัน การเอาคนสนิทมาแกล้งให้จำกันไม่ได้ หรือเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง เช่น การเอา “นวลพรรณ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และอดีตผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย มาเป็นปริศนาให้กับ “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์

หรือคู่ของ นิโคล เทริโอ” กับลูกชาย ที่นอกจากเมื่อกำแพงเปิดคนดูจะกรี๊ดแตกแล้ว ต่อมน้ำตายังแตกด้วย จนดึงเรตติ้งสูงที่สุดกว่าทุกเทปถึง 3.23 ยอดวิวในยูทูบแค่ 2 วันแรกทะลุกว่า 3 ล้านวิว

เทปไหนที่แกงกันได้นัว มีสกิลการแกล้งที่สนุกสนานแพรวพราว เพลงที่เลือกมามันโดน ตัวปริศนาที่ร้องเพลงก็ไพเราะเหลือเชื่อคือความเพลิดเพลินที่คนดูได้รับ

แต่อาจจะไม่ได้โชคดีแบบนี้ทุกเทป

ความท้าทายที่ทีมงานต้องเจอก็คือคิวดาราที่ต้องการนัดยากมาก และที่สำคัญถ้าเพลงที่ซุปตาร์เลือกไว้ตัวปริศนาหลังกำแพงร้องไม่ได้ และไม่มีฝ่ายใดยอมเปลี่ยนก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนคน

ตราบใดที่รายการนี้คนดูยังไม่เบื่อ ก็ถือว่าเวิร์คพ้อยท์ยังไม่ Fail แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไอเดียปัง ๆ ในวันที่คนดูเบื่อง่าย เปลี่ยนรีโมตในมือได้เร็วขึ้นนั้น ทำได้ยากจริง ๆ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online