เด็กเกิดใหม่ว่าน้อยแล้ว แต่เงินในกระเป๋าพ่อแม่ น้อยกว่า

จำนวนเด็กเกิดใหม่ ไทยลดลง แต่รายได้ผู้ปกครองลดลงมากกว่า

มีลูกเมื่อพร้อม

หลายคนคงจะคิดเช่นนั้นเมื่อคิดมีลูก จากค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพที่สูงขึ้น จนทำให้ต้องมาคิดทบทวนว่า ถ้าเรามีลูกสักคนจะมีเงินมากพอที่จะดูแลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของลูกดีได้แค่ไหน

 

เหตุผลที่เรากล่าวมาเป็นเพียงหนึ่งเหตุผลจากหลายร้อยพันเหตุผลที่ใครหลายคนไม่ยอมมีลูก

 

แต่เพราะคนไทยมีลูกน้อยลง อัตราเด็กเกิดใหม่ในแต่ละปีลดลงอย่างน่าใจหายเช่นกัน

จากข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยพบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีลูกน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ปี 2560 คนไทยมีลูก 702,755 คน

ต่อมาปี 2561 คนไทยมีลูก 666,357 คน

ปี 2562 คนไทยมีลูก 618,193 คน

ส่วนปี 2563 คนไทยมีลูก 587,368 คน

และปี 2564 คนไทยมีลูก 544,570 คน

และเมื่อเทียบปี 2564 กับ ปี 2555 กลับพบว่ามีเด็กเกิดใหม่ลดลงถึง 274,405 คน ซึ่งถือว่าเป็นการลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในปี 2555 มี จำนวนเด็กเกิดใหม่ มากถึง 818,975 คนจากทั่วประเทศ

อย่างที่เรากล่าวมาข้างต้นว่าบางครอบครัวไม่อยากมีลูก เพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เงินในกระเป๋าของใครหลายคนฝืดเคืองลงอย่างเห็นได้ชัด

 

และปัญหาเรื่องสำหรับครอบครัวที่มีลูกในเวลานี้ ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะค่าครองชีพสวนทางกับรายได้

จากการสำรวจของ theAsianparent พบว่าในวันนี้ พ่อแม่รู้สึกเครียดและกังวลกับการปรับขึ้นราคาของสินค้าต่าง ๆ มากถึง 72%

 

และในปีนี้มีพ่อแม่มากถึง 3 ใน 4 ของผู้ถูกสำรวจ มีอำนาจการจับจ่ายใช้สอยลดลงกว่าเดิม

 

ความกังวลเรื่องค่าครองชีพทำให้พ่อแม่ส่วนใหญ่รับมือผ่านวิธีต่าง ๆ ได้แก่

46% ลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยของครอบครัวลง

23% หาทางเพิ่มรายได้มากขึ้น

10% ลดการบริโภคสินค้าที่ขึ้นราคา

8% บริโภคตามปกติ

7% หาสินค้าทางเลือกที่มีราคาถูกกว่า

3% นำเงินเก็บมาใช้จ่ายเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น

3% หยิบยืม หรือกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่าย

 

จากวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ผลสำรวจยังพบว่า มีครอบครัวมากถึง 5% ยังเผชิญกับปัญหา ชักหน้าไม่ถึงหลัง

ค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก เช่น นมผง ผ้าอ้อม อาหาร และอื่นๆ มากกว่ารายได้ของครอบครัวที่มีอยู่ในปัจจุบัน

 

สำหรับการเรียนออนไลน์ แม้จะเป็นรูปแบบการเรียนที่ช่วยป้องกันคัสเตอร์ในโรงเรียนได้

แต่พ่อแม่มากถึง 40% มองว่าการเรียนออนไลน์ ทำให้พวกเขามีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่เพิ่มขึ้น จากการซื้ออุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และค่าอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ลูกสามารถเรียนออนไลน์ได้

 

และมีพ่อแม่ 24% มองว่ามีค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลง เพราะสามารถประหยัดค่าเดินทาง และโรงเรียนมีส่วนลดค่าเทอม ค่าอาหาร และค่าบริการต่าง ๆ ให้กับนักเรียนอีกด้วย

I-

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

---

ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ