“ไม่ท้อ ๆ ครับ ท้อไม่ได้ เราอยู่ตรงนี้แล้ว และมีคนอยู่กับเราอีกเยอะ 2-3 พันครอบครัว ก็ต้องยอมเหนื่อย แต่ยอมรับว่าผมไม่คิดว่าจะหนักและนานขนาดนี้ ปีต้มยำกุ้งว่าหนักแล้ว คราวนี้คนละเรื่องเลยครับ”
พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินกรุงเทพ เจ้าของสายการบินบางกอกเเอร์เวย์ส (BA)กล่าวกับ Marketeer ด้วยใบหน้าที่ยังมีรอยยิ้ม ในวันเเถลงข่าวการตั้งกองทรัสต์ BAREIT เข้าลงทุนสิทธิการเช่าสนามบินสมุย
ถึงเเม้ BA จะยังมีตัวเลขขาดทุนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8,599 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564
“ผมยังมั่นใจและเชื่อว่าเราจะมีทางออก และเชื่อว่าในที่สุดมันก็จะผ่านไป เหมือนหลาย ๆ วิกฤตที่มันเกิดขึ้น”
ทางออกหนึ่งที่เป็นความหวังของพุฒิพงศ์ก็คือ ศักยภาพของสนามบินสมุย สนามบินแห่งแรกของบริษัท ซึ่งเป็นประตูสำคัญที่เปิดออกไปให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามารู้จักกับประเทศไทย รู้จักเกาะสมุย และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2532
2 ปีกว่าที่ผ่านมาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สนามบินสมุยอาจจะซบเซาไปบ้าง แต่เมื่อเปิดประเทศเต็มรูปแบบและรัฐบาลผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติ เขามั่นใจว่าสมุยจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอนในปี 2567
สนามบินสมุย ที่เคยถูกแบงก์เมิน
นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้ง BA เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ตอนคิดที่จะสร้างสนามบินแห่งนี้เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตนเองไม่ได้มีที่ดินบนเกาะนั้นเลยสักตารางวาเดียว
การรวบรวมที่ดินซึ่ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว เเละที่ดินรกร้างก็ลำบาก เพราะต้องขับรถลงไปต่อเรือ ซึ่งสมัยนั้นเรือเฟอร์รี่ก็ยังไม่มี ราคาที่ดินในตำบลบ่อผุดซึ่งเป็นที่ตั้งสนามบินนั้น แรก ๆ ชาวบ้านก็ขายประมาณ 3 พันบาทต่อไร่ ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นหลักแสนบาท บางแปลงถูกซื้อดักหน้าแล้วมาขายต่อราคาสูงถึงเป็นล้านบาทต่อไร่ แต่ก็ต้องตัดใจซื้อ เริ่มแรกรวบรวมได้ 200 ไร่ ปัจจุบันจากการขยายสนามบินอย่างต่อเนื่องเลยต้องซื้อเพิ่มเป็น 500 กว่าไร่
และที่สำคัญ เมื่อตอนขอตั้งสนามบินสถาบันการเงินทุกแห่งต่างปฏิเสธและมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ไม่เคยมีเอกชนคนไหนเคยขอกู้เพื่อสร้างสนามบินมาก่อน
เมื่อถูกถามว่าจะขายอะไร จะเอาคนที่ไหนเข้ามา เขาก็ตอบว่า ตั้งใจจะขายแดดและธรรมชาติอันสวยงามของเกาะสมุย โดยมีแผนที่จะไปตั้งสำนักงานขายบนถนนชองป์เอลิเซ่ กลางกรุงปารีส ศูนย์รวมนักท่องเที่ยวเกรดเอจากทั่วโลก
วันนี้นอกจากสมุยจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักให้กับ BA นำไปขยายฝูงบินและไปสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดตราด พร้อม ๆ กับพัฒนาตัวสนามบินสมุยอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันสามารถรองรับได้ถึง 50 เที่ยวบินต่อวัน (หรือ 100 เที่ยวบินนับบินไป-กลับ) รองรับผู้โดยสารได้วันละ 16,000 คน หรือประมาณ 6 ล้านคนต่อปี
ถึงแม้ตัวเลขของใน Q1/2565 นี้มีเพียง 993 เที่ยวบิน รองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 66,738 คน แต่คาดว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างเช่นในเดือนกรกฎาคมเดือนแรกของไตรมาสที่ 3 มีเที่ยวบินที่บินลงที่นี่แล้วประมาณ 15-20 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสารประมาณ 5,000 คนต่อวัน
โดยมาจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและสายการบินจากประเทศกัมพูชา (จากกัมพูชาวันละ 4 เที่ยวบิน) เป็นหลักเท่านั้น
ซึ่งพุฒิพงศ์มั่นใจว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นสายการบินอื่น ๆ ที่เคยมาลงที่นี่ อย่างเช่น การบินไทย ไฟเออร์ฟลาย สายการบินจากประเทศจีน ฯลฯ จะต้องกลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับสายการบินเหมาลำทั่วไป General Aviation ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
รวมทั้งการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ ๆ ของบางกอกแอร์เวย์สที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยล่าสุดได้เปิดเส้นทางใหม่ไปสมุย-หาดใหญ่ เมื่อประมาณกลางเดือน ก.ค. นี้
และคาดว่าจะเห็นเส้นทางใหม่จากสมุยที่กลับไปจีน หรือเส้นทางใหม่ในอินเดีย ฮ่องกง ได้ในอีกไม่นาน
เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต พุฒิพงศ์ยังได้ยื่นเรื่องขอขยายศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินเพิ่มเป็น 73 เที่ยวบิน ต่อสำนักงานสิ่งเเวดล้อม ไว้เเล้วด้วย
ทั้งหมดจะเติมเต็มให้สนามบินสมุยกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่ง
และกลายเป็นโอกาสสำคัญในการที่จะเอาศักยภาพของสนามบินสมุยที่มีไประดมทุนในตลาดเงินตลาดทุนได้
เปิดตัวกองทรัสต์ “BAREIT” เมื่อ BA เปลี่ยนจาก “เจ้าของ” มาเป็น “ผู้เช่า”
เป็นการระดมทุนในรูปเเบบหนึ่งโดย BA ได้จัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ หรือ BAREIT
โดยจะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าสนามบินสมุย ที่ประกอบด้วยทางวิ่ง ลานจอด และสิ่งปลูกสร้างบางส่วนที่ใช้ในการดำเนินกิจการสนามบินสมุยเป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี
โดยกองทรัสต์จะมีรายได้ที่สม่ำเสมอจากการให้เช่าช่วงสนามบินสมุยแก่บริษัทย่อยของ บมจ. การบินกรุงเทพ ซึ่งจะเป็นผู้บริหารสนามบินและผู้เช่าหลัก
มูลค่ากองทรัสต์ BAREIT จะมีมูลค่าทั้งสิ้นราว 14,300 ล้านบาท มาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 10,330 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 5,060 ล้านบาท
BAREIT คือทรัสต์กองแรกในประเทศไทยที่เข้าลงทุนในสนามบิน ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่ลงทุนที่มีความมั่นคง และการจัดหารายได้จากผู้เช่าที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และมีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยกองทรัสต์จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและจากความโดดเด่นของเกาะสมุย
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่ออนุมัติการเสนอขายหน่วยทรัสต์แก่นักลงทุน คาดว่าจะระดมทุนและนำหน่วยทรัสต์เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปีนี้
ดังนั้นงานนี้แม้ BA จะเปลี่ยนจากการเป็นเจ้าของสนามบินมาเป็นในฐานะผู้เช่าแทน แต่อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เงินก้อนหนึ่งจากการระดมทุนเข้ากระเป๋ามาก่อน เพื่อนำเอาไปใช้คืนสถาบันการเงิน ลดหนี้ เสริมสภาพคล่อง และเพื่อการลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคต เพื่อรับมือกับกระแสของโควิด-19 ที่ยังไม่จากไปเสียทีเดียว
เป็นการมองการณ์ไกลของคนรุ่นพ่อ ที่ทำให้วันนี้ สนามบินสมุย กลายเป็นหลักทรัพย์สำคัญของคนรุ่นลูกได้นำเม็ดเงินจากการระดมทุนมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของตระกูลมั่นคงต่อไป
อย่าลืมว่าแม้วันนี้ธุรกิจหลัก โรงพยาบาลเครือกรุงเทพฯ จะเริ่มกลับมา แต่ธุรกิจสื่ออย่าง PPTV ก็ยังต้องระวังตัว
ที่สำคัญ BA ยังมีอภิมหาโปรเจกต์ที่ท้าทายรออยู่ข้างหน้า “คือโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา” ที่ไปร่วมทุนกับพันธมิตรและต้องใช้เงินรวมกันจำนวนมหาศาล
ดังนั้น BA จะเซไม่ได้เด็ดขาด
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
