พฤกษา ยุทธศาสตร์แห่งความยั่งยืน

ในปี 2558 บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จเติบโตขึ้นในทุกด้านทั้งยอดขายรายได้และกำไรโดยเฉพาะรายได้ที่ทำได้ถึง 50,672 ล้านบาท นับเป็นสถิติรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 22 ปีของบริษัทฯและเป็นสถิติใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการทำให้พฤกษา เป็นแบรนด์ ที่ดูแลห่วงใยและคุ้มค่า ส่งผลให้ลูกค้าต้องนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือKey Success หนึ่งที่สำคัญ โดยสะท้อนไปยังตัวเลขยอดขายที่สามารถสร้างสถิติใหม่ได้ทุกปี

ปี 2558 ทุบสถิติ สร้างยอดขายทะลุ 5หมื่นล้าน
พฤกษา เป็นบริษัทหนึ่งที่ให้ความสำคัญในการตรวจสอบสุขภาพของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยผลการวิจัย Brand Performance Tracking จากบริษัทวิจัยชั้นนำพบว่า “พฤกษา” เป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จักนึกถึงเป็นอันดับต้นๆและมีความชื่นชอบมากที่สุดซึ่งมาจากการที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการคิดสร้างสรรค์ คุณค่าเพื่อลูกค้า และสังคม ทำให้พฤกษา เป็นแบรนด์ที่ดูแลห่วงใยและคุ้มค่า
จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2558 ทะลุ 5 หมืนล้านบาทเป็นปีแรก เติบโต 18.7%จากปี 2557 ที่มีรายได้ 42,702 ล้านบาทและยังทำสถิติยอดขายใหม่โดยทำได้ 42,386 ล้านบาทเติบโต 8.4% จากปี 2557 ที่มียอดขาย 39,090 ล้านบาทและกำไรสุทธิที่ทำสถิติสูงสุดใหม่คือ 7,680 ล้านบาทเติบโต 15.4%จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 6,655 ล้านบาท
ทองมากล่าวว่าผลประกอบการที่เติบโตสูงขึ้นมาจากการที่บริษัทฯมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าReal Demand ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงประกอบกับการคิดสร้างสรรค์โดยนำนวัตกรรมใหม่ๆมาปรับปรุงการบริหารงานและจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างPruksa Precast และPruksa REM มาใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวมถึงมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าและการบริการ
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาไม่ใช่ปีที่ดีด้านกำลังซื้อของประชาชนในประเทศนัก ทองมาได้อธิบายว่า ปัญหาในการทำธุรกิจส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้เช่นปัญหาทางการเมืองอุทุกภัยภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อความต้องการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ส่วนความท้าทายข้างหน้าคือจะทำอย่างไรให้ องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนได้
“เวลาที่ผมเจอปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆผมจะใช้สติตั้งรับกับปัญหาโดยยึดมั่นในหลักธรรม“มรรค8”ศีลสมาธิปัญญาประกอบไปด้วยหลักของศีลได้แก่กายชอบวาจาชอบและใจชอบ, หลักสมาธิได้แก่สัมมาสติสัมมาสมาธิ, และหลักปัญญาได้แก่ดำริชอบเพียรพิจารณาชอบและรู้แจ้งชอบแม้ว่าจะเกิดความเครียดแต่ก็ไม่ท้อแท้คิดวิธีแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด”

มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆในทุกมิติ
สำหรับยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนขององค์กรนั้น ทองมาอธิบายว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์พฤกษา ให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของลูกค้าและเป็นองค์กรที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ภายใต้ 5 กลยุทธ์หลักคือ
1.จะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักเพราะเป็นตลาดที่มีความต้องการอย่างแท้จริงและยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
2. คือ“คิด…สร้างสรรค์คุณค่าเพื่อลูกค้า” (Create Value)ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นกระบวนการก่อสร้างเพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
3.เพิ่มช่องทางการให้บริการที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตอล
4. บริษัทฯมีแผนการปรับโครงสร้างกิจการใหม่โดยจะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งภายใต้ชื่อ“บริษัทพฤกษาโฮลดิ้งจำกัด (มหาชน)”เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโครงสร้างการจัดการองค์กรให้เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
5.การทำงานต้อง ยึดมั่นในการบริหารงานตามหลักธรรมาธิบาลที่ดี
สำหรับการปรับโครงสร้างนี้ ทองมาอธิบายว่า จะเกิดผลดีแก่ผู้ถือหุ้นเพราะบริษัทโฮลดิ้งมีโอกาสในการขยายกิจการไปยังธุรกิจอื่นๆที่มีความสามารถในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวโดยผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากจะมีการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ในอัตราเท่าเดิมคือ 1 ต่อ 1 ในราคาตลาดณวันที่มีการโอนแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์(ระยะเวลาเสนอซื้อหลักทรัพย์ประมาณ กันยายน–ตุลาคม 2559)
โดยบริษัทฯจะประกาศรายละเอียดขั้นตอนการแลกเปลี่ยนและช่วงเวลาที่แน่นอนอีกครั้งและหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้นพฤกษา
“โฮลดิ้งจะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเซ็กเตอร์อสังหาริมทรัพย์เหมือนเดิมแทนพฤกษาเรียลเอสเตทที่จะถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในเวลาเดียวกันส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมของพฤกษาเรียลเอสเตทจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นของพฤกษาโฮลดิ้งซึ่งจะยังคงประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักเช่นเดิม”

โดยวาง 3 กลยุทธ์หลักที่จะขับเคลื่อนใน 5 ปีข้างหน้าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนคือ
1. คงความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับน้อยถึงปานกลาง(Value)
2. เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน(Premium)
3. หาโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ๆโดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income)