Ford ประกาศปลดพนักงานในโรงงานในทวีปอเมริกาเหนือกับอินเดียรวม 3,000 คน ตามแผนปรับโครงสร้างและลดตำแหน่งงานที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะในการผลิตรถใช้น้ำมัน โดยงบที่ประหยัดได้นี้นำไปใช้วิจัยและพัฒนารถ EV รุ่นใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและเทรนด์ในอุตสาหกรรมยานยนต์
ในฐานะค่ายรถเก่าแก่และยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ Ford จึงต้องปรับตัวให้ทันกับเทรนด์ตลาด ที่ทยอยลดความสำคัญของรถใช้น้ำมัน แล้วให้ไปหารถ EV กันมากขึ้น แต่การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวยังต้องใช้ทั้งเวลาและงบก้อนใหญ่ ขณะเดียวกันก็ต้องมีการตัดลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไปด้วย
สถานการณ์ดังกล่าวนำมาสู่การประกาศปลดพนักงานรวม 3,000 คน โดย Ford จะทยอยแจ้งให้พนักงานที่ถูกปลดทราบภายในสัปดาห์นี้ และรับปากว่าจะมีเงินชดเชยพร้อมช่วยหางานใหม่ให้
Jim Farley
Jim Farley-CEO ของ Ford กล่าวว่า Ford ต้องปรับทิศทาง ต้องเดินหน้าให้เร็วกว่านี้และต้องคล่องตัวกว่านี้ ดังนั้นงานไหนที่ยังซ้ำซ้อน เป็นส่วนเกินหรือล้าสมัยต้องตัดทิ้งไปบ้าง
สำหรับ Ford ตั้งเป้าว่าในปี 2030 สัดส่วนการผลิตรถ EV ต้องเพิ่มเป็นครึ่งหนึ่งจากในปัจจุบัน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าวต้องใช้งบวิจัยพัฒนาและผลิตสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ (ราวเกือบ 2 ล้านล้านบาท)
แต่ขณะเดียวก็ต้องประหยัดงบให้ได้ปีละ 3,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 108,000 ล้านบาท) ซึ่งงบที่จะถูกตัดทิ้งไปมากสุดก็คือการผลิตและเงินเดือนพนักงานในสายพานการผลิตรถใช้น้ำมันนั่นเอง/cnn, dw
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ