เมื่อเห็นว่าการท่องเน็ตผ่าน Smartphone และดูโทรทัศน์แบบมากเกินไปส่งผลเสียหลายด้าน หมู่บ้านเกษตรกรรมในอินเดียจึงสั่งงด
ช่วงเวลา 19.00 – 20.30 นาฬิกาของทุกวันตั้งแต่ช่วงกลางสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้คนในหมู่บ้านวาดโกน เมืองสันคลี แคว้นมหาราชตะ ทางตะวันตกของอินเดีย ต้องงดใช้ Smartphone และดูโทรทัศน์
ตามมติที่คนในหมู่บ้านตกลงกันไว้ เพื่อให้คนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ลดความเครียดและปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีทั้งสองอย่างนี้มากเกินไป
เมื่อถึงเวลาดังกล่าวเสียงไซเรนจากหอกระจายข่าวในหมู่บ้านแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่ราว 3,000 คน จะดังขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีอาสาสมัครไปเตือนให้ชาวบ้านวาง Smartphone และปิดโทรทัศน์
ผู้ใหญ่หญิงของหมู่บ้านนี้เผยว่า นำมาตรการนี้มาใช้หลังเห็นว่าคนในหมู่บ้านยังคงใช้ Smartphone มากเกินไป โดยที่เห็นว่าน่าเป็นห่วงที่สุดเด็กวัยเรียน เพราะแม้ไม่ต้องใช้ Smartphone เรียนออนไลน์และกลับไปเรียนตามปกติแล้ว
แต่เมื่อกลับบ้านก็ยังเล่นเกมหรือท่องเน็ตผ่าน Smartphone ต่ออีกจนไม่ได้คุยกับพ่อแม่ ขณะที่สมาชิกครอบครัววัยทำงานเมื่อกลับบ้านก็มัวจ้องหาจอ Smartphone และเก็บตัวเงียบไม่คุยกับใครเช่นกัน
ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมกล่าวต่ออีกว่า เด็กๆ ที่ติด Smartphone หรือโทรทัศน์มักมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังพ่อแม่
นี่ทำให้เขานำปัญหาจากการใช้ Smartphone หรือโทรทัศน์ไปปรึกษากับสมาชิกสภาหมู่บ้าน จนมีการลงมติกันเมื่อ 14 สิงหาคม ก่อนวันครบรอบประกาศเอกราชอินเดีย 1 วันว่าต้องหาทางแก้ไข และนำมาสู่การงดใช้เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ในช่วงเย็นถึงค่ำของทุกวัน
ผู้ใหญ่บ้านเผยว่า บ้านกลับมาน่าอยู่ขึ้น สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น และมีความสุขมากที่เห็นสามีสอนการบ้านและเล่นกันลูก ๆ ช่วงเย็นเมื่อกลับบ้าน
นายแพทย์ มาโนช คูมาร์ ชาร์มา แห่งสถาบันสุขภาพจิตและประสาทวิทยาแห่งชาติของอินเดีย ชื่นชมมาตรการนี้ เพราะผลกระทบหนึ่งจากสถานการณ์โควิด คือทำให้เราใช้ Smartphone มากขึ้นจนพึ่งพามันมากเกินไป
และถ้าไม่ลดการใช้ลงบ้าง จะทำให้เราสื่อสารแบบพบหน้าค่าตาและพูดคุยกันน้อยลง จนเกิดเป็นความเครียดและทำให้ตัดขาดจากสังคม
ดังนั้นทางแก้และทางออกจากปัญหาการพึ่งพาหรือใช้ Smartphone มากเกินไป คือการที่คนในครอบครัวต้องได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพนั่นเอง/bbc
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ