PT Station จาก Underdog กลายเป็น Big player แต่วันนี้จะพลิกเกมสู้อย่างไรไม่ให้โดนน็อก

PT จาก Underdog สู่ Big player แต่วันนี้จะพลิกเกมสู้อย่างไรไม่ให้โดนน็อก ?

เป็นนักสู้ภูธรที่ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคมานานหลายปี ก่อนที่ปั๊ม PT จากค่ายพีทีจี เอ็นเนอร์ยี (PTG) จะผงาดขึ้นไปเป็นเบอร์ 2 รองจาก PTT Station ของยักษ์ใหญ่ “OR”

ทั้งส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมัน และจำนวนสถานีบริการน้ำมัน

ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 PTT Station มีสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส 2,234 แห่ง PTมี 2,212 แห่ง บางจากมี 1,320 แห่ง เอสโซ่มี 780 แห่ง

ส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันเดือนกันยายน 2565 อ้างอิงจากบางจากระบุว่า อันดับ 1 คือ PTT Station 39% รองลงมาคือPT 18% บางจาก 16.3% และเอสโซ่ 12.8%

ย้อนกลับไปที่ยกแรกของการต่อสู้ ในขณะที่แบรนด์ใหญ่แข่งกันเลือกทำเลทองบนถนนสายหลัก แต่PTกลับยึดฐานที่มั่นเป็นเส้นทางระหว่างอำเภอกับตำบล โดยมีกลุ่มคนใช้รถกระบะ รถไถ รถอีแต๋น รถบรรทุก เป็นลูกค้าหลัก

กลายเป็นโอกาสให้PTสร้างแบรนด์ เเละเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

แต่วันนี้ เกมกำลังเปลี่ยน เเละหนักกว่าเดิม เมื่อบางจากเข้าไปซื้อกิจการของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย)

สิ่งที่จะตามมาคือตัวเลขของสถานีบริการน้ำมันบางจากกับเอสโซ่ รวมกันจะทะลุถึง 2,100 แห่ง ไล่บี้ PTT Station กับPTตามมาติด ๆ

เมื่อ Oil เริ่มมีปัญหา กลับไปดูด้าน Non-oil บ้าง

Non-oil หลัก ๆ ของสถานีบริการน้ำมัน คือร้านกาแฟ

ซึ่ง PTT Station โชคดีเพราะมีแบรนด์ “คาเฟ่ อเมซอน” ที่แข็งแกร่งมานาน มีสาขาทั้งในและต่างประเทศถึง 3,765 สาขา รวมทั้งยังมีแบรนด์ร้านอาหาร และธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่น้ำมันอีกมากมาย

ส่วน PT นอกจากแบรนด์กาแฟ “พันธุ์ไทย” ที่จับลูกค้าระดับ Mass แล้ว ยังยกระดับไปซื้อแบรนด์ “Coffee World” เข้ามาด้วยเพื่อให้อยู่นอกสถานีบริการน้ำมัน PT ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สนามบิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ณ สิ้น Q3/2565 ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า PT มีร้านกาแฟพันธุ์ไทย 461 สาขา Coffee World 33 สาขา

ล่าสุด ยังได้เข้าร่วมลงทุน 10% ในบริษัท อรินแคร์ จำกัด (ARINCARE) สตาร์ตอัปผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านขายยาออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเติมพอร์ต Non-oil ให้เข้มเเข็งยิ่งขึ้น จากธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพที่เป็นเมกะเทรนด์

รวมทั้งเป็นโอกาสในการสร้างพลังในการทำตลาดของบัตรสมาชิก Max Card ที่ปัจจุบันมีอยู่ 18.3 ล้านสมาชิก

ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางขยายธุรกิจ Non-oil อย่างต่อเนื่อง

ส่วนบางจาก ณ สิ้น Q3/2565 มีร้านกาแฟ “อินทนิล” 931 สาขา และทะลุ 1,000 สาขาไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา และยังมีร้านชานมไข่มุก Dakasi ในสถานีบริการน้ำมัน 51 สาขา

นอกจากนั้น ยังมีพันธมิตรด้านธุรกิจร้านอาหารชั้นนำ เช่น ส้มตำเจ๊แดง, กาโตว์ เฮ้าส์, Sukishi Everyday, Yakun Kaya Toast เป็นต้น

การซื้อเอสโซ่เข้ามาเท่ากับบางจากได้หน้าร้านเพิ่มขึ้นอีก 780 แห่ง เปิดโอกาสครั้งใหญ่ในการรุกธุรกิจ Non-oil เช่นกัน

ง่าย ๆ อีกไม่นานเราคงได้เห็นร้านกาแฟอินทนิลไปเบ่งบานอย่างรวดเร็วในปั๊มของเอสโซ่ ซึ่งหลังจากนี้ไปประมาณ 2 ปี ก็น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ปั๊มบางจากเช่นกัน

จาก Underdog ที่กลายเป็น Big player มานานหลายปี เชื่อว่า PTG คงไม่ยอมโดนน็อกง่าย ๆ เหมือนกัน

แต่จะพลิกหาเกมไหนมาสู้แค่นั้น งานนี้คงตั้งรับอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

–