เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ประกาศเพิ่มพอร์ตคอนโด พร้อมขยายพอร์ตแนวราบ 11 โครงการ มูลค่า 17,500 ลบ. รับรู้รายได้ 13,000 ลบ.
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐ การลงทุนเพิ่มขึ้นของภาคเอกชน การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงนโยบายการเปิดประเทศ เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัว 3.0 – 3.5% ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนธุรกิจในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรอรับรู้รายได้ 13,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีที่เเล้ว
สำหรับปีนี้ วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 17,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์โฮม 2 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ
เพิ่มสัดส่วนโครงการบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ เพิ่มสัดส่วนบ้านในระดับราคา 60-120 ล้านบาท ใน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ The Royal Residence, Alpina และThe GRAND (เดอะ แกรนด์) เจาะกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่เเละลูกค้าที่มีรายได้ประจำ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการระบาดที่ผ่านมา บริษัทไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ ที่ประสบปัญหาหลายด้าน เเต่ผ่านมาได้ด้วยการปรับกลยุทธ์ต่างๆ บริษัทอาศัยพัฒนาที่ดิน Land Bank เปิดโครงการด้วยการพัฒนาที่ดินเดิมไป 15 แห่ง ซึ่งช่วยบริหารต้นทุนธุรกิจได้ดีในช่วงวิกฤต
นอกจากนั้น สถานการณ์ยังส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้คน แต่อสังหาริมทรัพย์มีต้นทุนสูงขึ้น กลุ่มลูกค้ารากหญ้าไม่สามารถสู้ราคาทาวน์เฮ้าส์ได้ คนหันมาซื้อบ้านเดี่ยวมากขึ้น บริษัทจึงขยายสัดส่วนบ้านเดี่ยวเพิ่ม 6 โครงการในปี 2565 รับดีมานด์ลูกค้า
ทำให้การดำเนินงานในปี 2565 รายได้โต 2% อยู่ที่ 11,392 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,470 ล้านบาท โต 63% เป็นการเติบโตจากการขยายพอร์ตบ้านเดี่ยว รายได้เฉพาะกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 66% จาก 2,730 ล้านบาทในปี64 เพิ่มเป็น 4,519 ล้านบาทในปี 65
อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านเดี่ยวปรับสูงขึ้น ตามราคาที่ดินที่เเพงขึ้น ซึ่งปรับตัวในช่วงก่อนเเละหลังโควิด
ที่ดินแพงขึ้นหลังโควิด สะท้อนปัจจัยด้านต้นทุนของอสังหาริมทรัพย์
| เหตุผล : โครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อสู่จังหวัดฝั่งตะวันตก | เหตุผล : ความเป็นเมืองขยายจากรถไฟฟ้า |
| ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ +65.5% | เกษตร-รามอินทรา +60.4% |
| รัตนาธิเบศร์-ชัยพฤกษ์ +64.4% | วัชรพล-สายไหม +44.2% |
| ราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย + 65% | ราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 52.3% |
| เหตุผล : การเกิดใหม่ของทางด่วน | เหตุผล : การเเข่งขันสูงโครงการเกิดใหม่เยอะ |
| พระราม2-บางบอน +97.9% | รามคำแหง-อ่อนนุช +138.3% |
| สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ+63.2% | บางนา-วงเเหวน +98.4% |
| ราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย +80.6% | เทพารักษ์-บางพลี +38.8% |
| ราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย +91.8% | |
ที่มา : ฝ่ายสรรหาที่ดินเเละฝ่ายพัฒนาธุรกิจ FPH
คุณเเสนผิน กล่าวเสริมถึงสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า เเนวราบเผชิญการเเข่งขันสูง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคาเเพง ซึ่งท่ามกลางคอนโด ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยวคือตลาดเดียวที่ปรับตัวขึ้น 3% ขณะที่ตลาดอื่นปรับลดลง
แต่ไม่ว่าอย่างไร คอนโดในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เริ่มกลับมาขยายตัว เนื่องจากกำลังซื้อของลูกค้าเริ่มกลับมา เเต่อาจไม่มากนัก
ปี 2566 นี้ ตั้งเป้าโต14% จบปีรับรู้รายได้ 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยวซึ่งเป็นสินค้าหลักในสัดส่วน 39% ทาวน์เฮ้าส์ 32%
พร้อมเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ โดยจะเน้นขยายบ้านเดี่ยวในทุกระดับราคา ขณะที่พอร์ตใหม่ อย่างคอนโด เเบ่งเป็นการโตแบบออแกนิค สำหรับคอนโดที่เป็น Low rise 3 แห่ง (รัชดา รามอินทรา ลาดพร้าว) ภายใต้ชื่อเเบรนด์ใหม่ “Klos” เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เเละอินออแกนิค ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพูดคุย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
