โคเปนเฮเกน ทำไมจึงครองแชมป์เมืองน่าอยู่ Work-Life Balance ดีสุดในโลกปี 2023
เราต่างทำงานเพื่อให้ได้เงินเดือนหรือค่าตอบแทนมาเลี้ยงชีพ แต่หากทำงานมากเกินไปไม่ว่าเงินมากแค่ไหนย่อมไม่ดีต่อการใช้ชีวิตและครอบครัว นี่เองจึงต้องแบ่งเรื่องงานกับการใช้ชีวิตหรือ Work-Life Balance ให้ลงตัว
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ เกิดการลาออกครั้งใหญ่ (Great Resignation) ของกลุ่ม Gen Z กับ Gen Y และปรับโหมดชีวิตครั้งใหญ่ (Great Reshuffle) ในกลุ่ม Gen X ขึ้นทั่วโลก ซึ่งสาเหตุหลักคือ Work-Life Balance
นี่จึงเป็นการยืนยันว่า Work-Life Balance สำคัญต่อประชากรวัยทำงานทั่วโลกมากขึ้นกว่าในอดีต จนนำมาสู่เคล็ดลับและทางลัดผ่านหนังสือ How to เพื่อจัดการให้ Work-Life Balance ลงตัวมากมาย
เช่นเดียวกับข้อมูลเรื่องนี้บนโลกออนไลน์ และประเด็นเกี่ยวเนื่องต่าง ๆ รวมไปถึงเมืองที่มี Work-Life Balance ดีสุดในโลก
Forbes สื่อเศรษฐกิจและจัดอันดับความมั่งคั่งชื่อดังของสหรัฐฯ ได้จัดอันดับเมืองที่ประชากรมี Work-Life Balance ดีสุดในโลกประจำปี 2023 จากทั้งหมด 128 เมืองทั่วโลก ผ่าน 10 เกณฑ์วัด เช่น ดัชนีความสุข ความเท่าเทียมทางเพศ เวลาทำงานเฉลี่ย สัดส่วนเวลาทำงานอยู่บ้าน และอัตราการว่างงาน
Copenhagen
แล้วคัดให้เหลือ 25 อันดับสูงสุด ปรากฏว่าอันดับ 1 คือ โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก ที่ได้คะแนน Work-Life Balance ไป 70.5 จากเต็ม 100 สร้างความภาคภูมิใจให้เดนมาร์กเพิ่มอีก เพราะปี 2022 สหประชาชาติยกให้เป็นประเทศ E-Government ดีสุดในโลก และยังเป็นประเทศที่ความสามารถด้านดิจิทัลสูงสุดอีกด้วย
และปีนี้ก็คว้าอันดับ 1 ประเทศความสามารถทางการแข่งขันดีสุดในโลกต่อเป็นปีที่ 2 ขึ้นมาจากอันดับ 3 เมื่อปี 2021 และอันดับ 2 เมื่อปี 2020
ด้านอันดับที่เหลือของโซน Top 5 ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเมืองหลวงของเพื่อนบ้านในกลุ่มยุโรปเหนือ (Nordic) คือ อันดับ 2 Helsinki (ฟินแลนด์) อันดับ 3 Stockholm (สวีเดน) และอันดับ 4 Oslo (นอร์เวย์) โดยมี Auckland (นิวซีแลนด์) เป็นเมืองนอกยุโรปหนึ่งเดียวของโซนนี้ ในอันดับ 5
ปัจจัยบวกร่วมที่เมืองโซน Top 5 มีเหมือนกันคือประชากรไม่มากเกินไป โดยแต่ละเมืองมีประชากรอยู่ไม่ถึง 2 ล้านคน พร้อมจุดเด่นอื่น ๆ ต่างกันไป
Helsinki
เช่น Helsinki คือเมืองหลวงของประเทศมีความสุขที่สุดในโลก ส่วน Auckland เมืองใหญ่ของนิวซีแลนด์ที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย ซึ่งเมื่อปี 2021 ศูนย์วิจัย The Economist สำนักข่าวเศรษฐกิจอังกฤษ เคยยกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายว่าจาก 25 อันดับสูงสุด 20 อันดับเป็นเมืองในยุโรป และมีเพียง 5 เมืองเท่านั้นที่มาจากเมืองของประเทศนอกยุโรป โดยเริ่มจาก Auckland (นิวซีแลนด์) อันดับ 5
Auckland
ต่อด้วย Brisbane Melbourne และ Sydney ของ ออสเตรเลีย ในอันดับ 17, 18 และ 22 โดยมี Abu Dhabi (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รั้งท้ายในอันดับ 25/forbes, visualcapitalist
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /