Trend : ข่าวการใช้ ChatGPT กว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆ ที่ล่าสุดถึงขั้นเปลี่ยนข้อความกลายเป็นวิดีโอได้ทันที
และภาพมากมายที่แชร์กันอยู่บนสื่อโซเชียลจนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นภาพจริงหรือสร้างขึ้น เป็นสัญญาณว่า AI เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายแล้ว
แต่พัฒนาการของ AI คงไม่หยุดแค่นี้ มาดูกันว่าปี 2024 มีเทรนด์ AI อะไรบ้าง ที่ต้องจับตา จะมาขับเคลื่อนโลกธุรกิจ และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
Multimodal AI: เทรนด์ AI แรกที่จะเริ่มให้เห็นในปี 2024 คือ AI ที่สามารถทำงานได้แบบโหมดพร้อม ๆ กัน หรือสลับไปมา เช่น สั่งการด้วยเสียงแล้วแสดงผลเป็นภาพ สั่งการด้วยข้อความแล้วแสดงผลเป็นเสียง
หรือส่งภาพแล้วให้คำตอบออกมาเป็นข้อความ โดย Samsung ใส่ Multimodal AI ให้เราได้ใช้กันแล้วใน Galaxy S24 ผ่านการแปลข้อความต่างภาษาแบบตามเวลาจริง สลับไปมาระหว่างเสียงและข้อความ
Mark Chen หัวหน้าฝ่ายวิจัย OpenAI บริษัท AI ชั้นนำระดับโลกที่พัฒนา ChatGPT กล่าวว่า “Interface ของอุปกรณ์ต่าง ๆ กำลังเข้าสู่ยุค Multimodal
และเราก็อยากให้อุปกรณ์ใกล้ตัวเห็นแบบที่เราเห็น ได้ยินแบบที่เราได้ยิน แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้มันสร้างคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพดีจนเราทึ่งด้วย”
Agentic AI: เทรนด์นี้คือ AI ที่ทำงานได้ในเชิงรุกและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน ต่อองค์กรต่าง ๆ ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่หรือพักงานคนหนึ่ง แบบ Agent อันเป็นที่มาของชื่อ Agentic AI นั่นเอง
โดยจากเดิมที่จะต้องป้อนคำสั่งหรือตั้งโปรแกรมไว้ AI ที่พัฒนาไปเป็น Agentic AI จะคิดและสามารถทำงานแทนคนในบางเรื่องได้เลย
เช่น ถ้ากรมป่าไม้หรืออุทยานแห่งชาติมี Agentic AI แล้วมันตรวจจับไฟป่าตอนกลางคืนที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ในศูนย์ควบคุม ระบบก็เรียกให้หน่วยดับไฟป่าไปทำงานได้อย่างทันท่วงที
Open Source AI: การสร้าง AI ด้านภาษาว่าใช้กำลังคนพร้อมงบก้อนใหญ่แล้ว แต่เมื่อพัฒนาไปเป็น Generative AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพทั้ง ภาพ เสียง และข้อความเข้ามาอีก งบและกำลังคนที่ใช้ย่อมเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ
นี่ทำให้เทรนด์ถัดมาคือ Open Source AI ที่เปิดให้โปรแกรมเมอร์และเซียน AI ทั่วไปเข้ามาต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่ แบบเดียวกับโปรแกรมแบบ Open Source ต่าง ๆ ซึ่งในภาพใหญ่จะทำให้วงการ AI พัฒนาไปได้เร็วขึ้น
RAG: แม้ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ChatGPT ของ OpenAI ซึ่ง Microsoft หนุนหลังอยู่ กระตุ้นให้บริษัทยักษ์เทคอื่น ๆ อย่าง Alphabet (บริษัทแม่ Google) และ Baidu พัฒนา AI ออกมาจนเทคโนโลยีนี้โตขึ้นและเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย
แต่การหลงคิดว่าข้อมูลที่มีอยู่ถูกต้องทั้งที่ความจริงผิดพลาดหรือที่เรียกว่าการหลอนของ AI ยังคงเป็นปัญหา ตลกร้าย หรือมีมที่แชร์กันบนสื่อโซเชียล จนทำให้องค์กรใหญ่ ๆ กังวลว่า จะกลายเป็นปัญหาหากนำ AI ไปใช้
ปีนี้ปัญหาดังกล่าวจะทยอยลดลงไป ผ่าน Retrieval Augmented Generation หรือ RAG ที่จะช่วยอัปเดตคลังข้อมูลให้ถูกต้องอยู่เสมอ หรือแก้ไขในเวลาไม่นานเมื่อเกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ นำ AI ไปใช้ได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น
CEG AI: ทั้ง ChatGPT และ Midjourney ต่างก็เป็นหัวหอกของวงการ AI ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในการสั่งการด้วยเสียงและสร้างภาพ จนหลายบริษัทเห็นว่า หากมี AI ที่ประสิทธิภาพด้านอื่นด้วยก็คงดี
นี่ทำให้เกิด Customized Enterprise Generative AI หรือ CEG AI ที่สร้างขึ้นแบบตามสั่งและความต้องการเฉพาะด้านของแต่ละบริษัทขึ้น ซึ่งงบและเวลาที่ใช้ในการพัฒนาก็จะถูกกว่าและน้อยกว่า AI ดัง ๆ อย่าง ChatGPT และ Midjourney
AI & Machine Learning Talent Need: เทรนด์ AI อีกอย่างที่จะเห็นกันมากขึ้นในปี 2024 คือ ตำแหน่งงานด้าน AI ตามบริษัทต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือการแย่งตัวบรรดาเซียนเทค
ไปจนถึงการตั้งผู้บริหารที่จะมากำกับดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับ AI ของในองค์กรอย่างจริงจังด้วย
Shadow AI: เมื่อ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกเทรนด์ที่จะเกิดขึ้น คือ การใช้กันในการทำงาน เพราะเห็นว่าช่วยให้งานเสร็จเร็ว และเพิ่มความสะดวก แต่เพราะเป็นช่วงแรก ๆ ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง
และยากที่จะตรวจสอบ จึงเกิดการแอบใช้หรือใช้เหมือนอยู่ในเงาของพนักงาน หรือ Shadow AI ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทั้งองค์กรและพนักงานต้องหันหน้าเข้าหากัน ทั้งกรอบการใช้ต่าง ๆ ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน กับงานใด และใครสามารถใช้ได้บ้าง
เทรนด์นี้ถือเป็นเรื่องต้องใส่ใจ เพื่อให้ทันเทคโนโลยี ใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และกันไม่เกิดความผิดพลาดจากการใช้ AI อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
Evolving AI Regulation: เทรนด์ AI สุดท้ายที่จะเห็นกันมากขึ้นในปี 2024 คือ การตื่นตัวออกกฎระเบียบเพื่อกำกับดูแลการใช้ AI ไล่ตั้งแต่บริษัท ไปจนถึงหน่วยงานราชการและรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ
เช่นที่ สหภาพยุโรป (EU) นำหน้าไปแล้วด้วยการออกกฎระเบียบควบคุมการใช้ AI และหน่วยงานราชการในหลายประเทศกำลังหาทางจัดการมิจฉาชีพที่นำ AI มาใช้ก่อเหตุ/techtarget
–