ประสิทธิภาพและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของเอไอในแวดวงธุรกิจและการผลิต ท่ามกลางคาดการณ์ของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัย Oxford ที่ว่า
เมื่อถึงปี 2030 เอไอจะทำให้ประชากรวัยทำงานทั่วโลก 20 ล้านคนต้องตกงาน ส่งผลให้เอไอกลายเป็นความกลัวและความท้าทายลำดับต้น ๆ ที่คนทำงานในทุกธุรกิจยุคนี้ต้องรับมือ
อย่างไรก็ตาม ในฝั่งผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจกลับคิดตรงกันข้าม เพราะยิ่งนำเอไอมาใช้มากเท่าไรก็ยิ่งเสริมภาพลักษณ์ให้องค์กรดูทันสมัย พร้อมลดกำลังคน เพิ่มความสะดวก และลดงบประมาณได้อีกด้วย
McDonald’s ก็ไม่ตกเทรนด์เรื่องนี้ โดยเมื่อปี 2019 ได้ซื้อกิจการ Apparente บริษัทเอไอด้านวิเคราะห์และการสั่งด้วยเสียงสำหรับธุรกิจที่ซื้อขายสินค้า
ที่ต่อมาในปี 2021 ถูกนำมาทดลองใช้กับระบบรับสั่งอาหาร รวมกับเอไอของ IBM ตามสาขาแบบขับรถเข้าไปจอดเทียบ (Drive-Thru) ในสหรัฐฯ และดูเหมือนว่าเอไอเหล่านี้จะทำงานได้เป็นที่น่าพอใจทีเดียว
ยืนยันได้จากการเพิ่มสาขาทดลองใช้เอไอเป็นกว่า 100 แห่งทั่วสหรัฐฯ ทว่าเอไอก็กำลังจะไม่ผ่านการฝึกงานกับ McDonald’s
ยักษ์ฟาสต์ฟู้ดอเมริกันประกาศว่า ภายใน 26 กรกฎาคมนี้จะยกเลิกทดลองใช้เอไอของ IBM และเอไอทั้งหมดตามสาขาไดร์ฟทรูทั่วสหรัฐฯ ทุกแห่ง
แต่เอไอยังยังจะอยู่ในแผนธุรกิจขององค์กร และยังยินดีทำธุรกิจกับ IBM ต่อในโอกาสหน้าถ้ามีโครงการน่าสนใจ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องเลิกทดลองใช้เอไอนั้น McDonald’s ไม่ได้ระบุไว้ แต่ก็คาดกันว่าเกิดจากความผิดพลาดซ้ำ ๆ ที่ปรากฏออกสื่อ เช่น สั่งให้พนักงานใส่เบคอนลงไปในไอศกรีม
และสั่งเพิ่มนักเก็ตในเมนูมากเกินจากที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งมูลค่ามากถึงหลายร้อยดอลลาร์ (ราว 3,600 บาทขึ้นไป) โดยทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็ถูกนำไปล้อเลียนใน TikTok ให้ยิ่งเสียหาย และสร้างความอับอายอีกด้วย
ด้านสื่อในสหรัฐฯ วิเคราะห์ผ่านทัศนะของผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและนักลงทุนว่า McDonald’s นำเอไอมาใช้เร็วเกินไป จนลืมพิจารณาให้รอบคอบว่า นี่คือเทคโนโลยีที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่
และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลต่อทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนกับของ McDonald’s เอง โดยมี IBM ได้รับผลกระทบมากสุด
อย่างไรก็ตาม McDonald’s ก็ยังไม่ถอดใจเรื่องการนำเอไอมาใช้ไปเลยเสียทีเดียว โดยมีการคาดกันว่า อาจนำเอไอและเทคโนโลยีอย่างหนึ่งอย่างใดของ Google มาใช้
ต่อมาเมื่อธันวาคม 2023 ผู้บริหาร McDonald’s ได้ไปปรากฏตัวในงานประชุมนักลงทุน Google และหลังจากนั้นไม่นานซีอีโอ Alphabet บริษัทแม่ Google ก็ยืนยันเรื่องว่า McDonald’s สนใจใช้เทคโนโลยีของ Google จริง
ส่วนจากนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า เอไอ ในวงการฟาสต์ฟู้ดสหรัฐฯ จะพัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้นจนสามารถลดการจ้างงานลงไปได้อย่างต่อเนื่องอันจะดีต่อธุรกิจ หรือเกิดข้อติดขัดขึ้นอีกให้ต้องกัดฟันกลับมาจ้างพนักงานที่เรียกร้องขึ้นค่าแรง
แต่ทั้งหมดยังมีอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้นั่นคือเบื้องหลังการทำงานของเอไอและการปกปิดข้อมูลของบริษัทเอไอบางแห่ง
เช่น เมื่อปี 2023 มีรายงานว่างานระบบเอไอวิเคราะห์เสียงของ Preston บริษัทเอไอที่แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐฯ หลายแห่งใช้กัน ยังไม่ได้พัฒนาก้าวหน้าถึงขนาดแทบไม่ต้องใช้คนตามที่กล่าวอ้าง
เพราะแท้จริงแล้วยังต้องให้ผู้ดูแลระบบที่ทำสัญญาว่าจ้างจากบริษัทภายนอก (Outsource) ในฟิลิปปินส์แก้ไขและจัดการ 70% ยอดการสั่งอาหารทั้งหมด
นอกจากเป็นการปกปิดข้อมูลแล้ว เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นว่า Preston ใช้การจ้างพนักงาน Outsource ในฟิลิปปินส์ ที่ค่าแรงถูกกว่าเป็นทางลัดในการแก้ปัญหาการจ้างงานคนในสหรัฐฯ ที่ค่าจ้างแพงกว่าและกำลังเรียกร้องขอขึ้นค่าจ้างอีกด้วย/cnn, bbc, theguardian, cnbc, dailymail
–