Wang Wei ทำความรู้จักกับประธาน SF Express ฮ่องเต้บนบัลลังก์ Logistic แดนมังกร

เกือบ 100 ปีที่ผ่านมาผู้บริโภคทั่วโลกได้รู้จักแบรนด์จากเอเชียตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ทั้งรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ,Mobile Device ชื่อเกาหลี โดยมีแบรนด์คอมพิวเตอร์ไต้หวันเป็นตัวสอดแทรก จนถึงปัจจุบันเราเริ่มคุ้นเคยกับ Smartphone และ E-Commerce จีนกันมากขึ้น

ต้องยอมรับว่าชื่อเสียงระดับนานาชาติของ Jack Ma มีส่วนสำคัญอย่างมาก ทว่าในจีนเองคนดังภาคธุรกิจที่กำลังได้รับการยกย่องคือ Wang Wei ประธาน Shunfeng Express บริษัท Logistic ยักษ์ใหญ่ ที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 28,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1 ล้านล้านบาท) หลังพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แซงทั้งประธาน Alibaba Group รวมถึง Pony Ma ประธานบริหาร (CEO) Tencent บริษัท Internet รายใหญ่ ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของจีน รองอยู่แค่เพียง Wang Jianlin เจ้าสัววงการอสังริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง Wanda Group เท่านั้น

World Marketeer คนล่าสุด เกิดที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 1971 ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นล่ามภาษารัสเซียของกองทัพอากาศและแม่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย อายุเพียง 7 ปีย้ายตามครอบครัวไปอยู่ฮ่องกง แล้วจึงกลับจีนมาอยู่ที่เมืองชุนเต๋อ มณฑลกวางตุ้ง

สำหรับจุดเริ่มต้นของบริษัทภายใต้การบริหารของ Wang เกิดขึ้นเมื่อปี 1993 เพราะความขัดใจระหว่างยังอยู่ในธุรกิจค้าผ้าที่ตัวอย่างสินค้าไปถึงมือลูกค้าในฮ่องกงช้ามาก เขาและเพื่อนอีก 5 คนจึงตัดสินใจตั้งบริษัทขนส่งขึ้นเอง ผ่านเงินตั้งต้น 10,000 หยวน (ราว 455,000 บาท) ที่ยืมพ่อมา โดยเลือกใช้ Shunfeng ที่หมายถึงการอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและลมช่วยพยุงหางเสือเครื่องบิน (Tailwind) เป็นชื่อบริษัทเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อการดำเนินธุรกิจ

ในช่วงตั้งไข่ทีมงานรุ่นบุกเบิกทั้ง 6 ของ Shunfeng Express หรือที่เรียกแบบย่อว่า SF Express ต่างต้องทุ่มเทแรงกายและเวลาราว 15-16 ชั่วโมงต่อวันไปกับการส่งสินค้าระหว่างเมืองเซิ่นเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้งกับฮ่องกง ขณะเดียวกันต้องคอยหลบหลีกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐไปด้วย เพราะขณะนั้นธุรกิจดังกล่าวยังถือว่าผิดกฏหมาย โดยจากการที่สินค้าถึงผู้รับตรงเวลา ในราคาสมเหตุสมผลจึงเกิดการบอกกันปากต่อปากในหมู่ลูกค้า ทำให้มีงานเข้ามามาก ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่กำลังเฟื่องฟูจากอาณิสงส์ของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง (แม่น้ำไข่มุก) ตามนโยบายของอดีตประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยวผิง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเมืองเซิ่นเจิ้น พื้นที่ให้บริการของบริษัทอยู่ด้วย

จากนั้นบริษัทขนส่งที่มีชื่อเป็นมงคลก็พัฒนาไปตามเลขปีที่เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนพนักงาน พาหนะที่ใช้ขนส่งสินค้าและพัสดุ เช่นเดียวกับขนาดและจำนวนของพัสดุ รวมไปถึงพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมจีนทั้งประเทศ โดยปัจจุบันพนักงานเกือบ 130,000 คน รถขนส่งสินค้าตั้งแต่จักรยานยนต์ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่นับหมื่นคัน พร้อมด้วยเครื่องบินอีก 31 ลำ ทำหน้าที่ส่งพัสดุและสินค้าไม่ว่าเล็กใหญ่กว่า 80,000 ชิ้นต่อวัน

นอกจากนี้ล่าสุดยังมีแผนสร้างสนามบินในเมืองอี้โจวทางภาคกลางของประเทศ ซึ่งคาดว่าเมื่อแล้วเสร็จในปี 2020 จะสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ Logistic ตามการเติบโตของ E-Commerce อีกด้วย รวมถึงเปิดพื้นที่ให้บริการใหม่ไปต่างแดนซึ่งอาจเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือสหรัฐ

Wang Wei รวยแบบเงียบๆ

แม้ Shunfeng ประสบความสำเร็จจนได้รับฉายาว่า “FedEx จีน” แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ Wang Wei ยังคงเลือกให้สัมภาษณ์น้อยมากเท่าที่เห็นว่าจำเป็น ขนาดที่ว่านักลงทุนต้องเสนอเงินรางวัลให้ผู้ที่สามารถนัดหมายพร้อมลงนามทำสัญญาธุรกิจ และสำนักข่าวไหนที่อยากได้ข้อมูลของเขาต้องส่งนักข่าวแฝงตัวไปทำงานในบริษัท นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเป็นที่รู้จักเฉพาะในหมู่ชาวจีน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ Jack Ma ที่ปรากฏตามสื่อเป็นประจำจนดังไปทั่วโลก

โดยมหาเศรษฐี วัย 46 ปี กล่าวถึงนิสัย Low Profile ระหว่างการให้สัมภาษณ์หนึ่งในไม่กี่ครั้งไว้ว่า “การประสบความสำเร็จและความร่ำรวยไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาโอ้อวดกัน ขณะเดียวกันยิ่งเป็นที่รู้จักน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ในเรื่องการบริหารและเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากพนักงานโดยตรงมากเท่านั้น”