ในช่วงไม่ถึงปีที่ผ่านมา แบรนด์โมเดิร์นเทรดไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร, โลตัส, ท็อปส์, เจซี, โกโฮลเซลล์ และบิ๊กซี ต่างเดินเกมนำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเปิดให้บริการในราคาที่จับต้องได้ ผ่านจุดขายและรสชาติแบบฉบับของตัวเอง บนราคาเริ่มต้น 8-12 บาท
แม้ซอฟต์เสิร์ฟไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับตลาดไอศกรีมและโมเดิร์นเทรด เพราะอิเกียมีจำหน่ายมาอย่างยาวนาน
แต่ Marketeer มองว่าคือเกมใหม่ของโมเดิร์นเทรด ซึ่งประกอบด้วยร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าส่งสมัยใหม่ ที่ส่วนใหญ่ต่างนำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าก่อนกลับไป นั่นก็คือไอศกรีมรสชาติดี รสสัมผัสละมุน สร้างความสดชื่นให้กับตัวเอง ในราคาสบายกระเป๋า
ซึ่งการสร้างประสบการณ์นี้เป็นหนึ่งในแนวคิดตามกลยุทธ์ Peak End Rule ที่เปลี่ยนความรู้สึกที่ดีและไม่ดีในการซื้อสินค้า เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจและจดจำก่อนกลับไป จนอาจจะลืมหรือมองประสบการณ์ที่ไม่ดีก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย
ส่วนการเลือกไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเป็นตัวปิดประสบการณ์ Marketeer มองว่ามาจากไอศกรีมเป็นอาหารที่ให้ความสดชื่นในการทาน และซอฟต์เสิร์ฟเป็นไอศกรีมที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการเข้ามาทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ เช่น แบรนด์มี่เสวี่ยที่มีจุดขายผ่านซอฟต์เสิร์ฟในราคาที่เข้าถึงได้
ประกอบกับการทำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟมีวิธีการทำที่ง่าย เพียงใส่วัตถุดิบลงในเครื่องทำไอศกรีมเพื่อรอกดให้กับลูกค้าที่ต้องการ และใช้พื้นที่วางเครื่องทำไอศกรีมที่ไม่มากนัก ที่สามารถสร้างรายได้จากการขายไอศกรีมและสร้างประสบการณ์ที่ดีในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งยังสามารถเป็นหนึ่งในแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในความถี่ที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการเข้ามาทานไอศกรีมที่ถูกปากด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แม้ในวันนี้ซอฟต์เสิร์ฟจะเป็นเพียงสินค้าชิ้นเล็กในพอร์ตโฟลิโอของโมเดิร์นเทรด แต่เป็นเทรนด์ที่การตลาดที่ฮิตติดโมเดิร์นเทรด ท่ามกลางความร้อนของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี