การพูดคุยกันในเรื่องที่ดูไม่เป็นเรื่อง อย่างถามถึงซีรีส์เมื่อคืนวาน
เมนูข้าวเที่ยง หรือสภาพอากาศวันนี้ ฟังดูไร้สาระ
แต่จริง ๆ แล้วอาจช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากกว่าที่คิด
แม้การพูดคุยกันในเชิงสุภาพสร้างสรรค์จะช่วยส่งเสริมสมาธิ
ในที่ทำงาน แต่การพูดคุยกันในเรื่องไร้แก่นสารก็ใช่ว่าจะแย่เสมอไป
ผลการวิจัย โดย Rutgers และ the University of Exeter Business School
จากการศึกษาข้อมูลจากพนักงานประจำ 151 คน
จากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยให้พนักงานรับแบบสำรวจ
วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 15 วันติดต่อกัน
พวกเขาต้องตอบคำถามว่า พวกเขาพูดคุยในที่ทำงาน
มากเพียงใดในแต่ละวัน รวมถึงเกี่ยวกับอารมณ์เชิงบวก
อย่างความรู้สึกเป็นมิตร ความภาคภูมิใจ สุขภาวะ(wellbeing)
และความเต็มใจที่จะทำงานเกินขอบเขต
ผลปรากฏว่าพนักงานที่พูดคุยสัพเพเหระมากกว่าปกติ
จะมีความรู้สึกเชิงบวกมากขึ้น ส่งผลให้มีสุขภาวะ
ในที่ทำงานดีขึ้น พนักงานเหล่านี้จะรู้สึกว่าตนได้รับการ
ยอมรับมากขึ้น รวมถึงทำให้มีความผูกพันกับผู้อื่นเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญคือเริ่มเต็มใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน
และเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นด้วย
แม้จะมีส่วนน้อยที่บอกว่าการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ สร้างความฟุ้งซ่าน
รบกวนเวลางาน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ผลกระทบที่เกิดขึ้น
เป็นไปในเชิงบวกมากกว่า
การสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือ smalltalk
หมายถึง การสนทนาที่ผิวเผิน ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
แต่เป็นกันเอง เช่น การทักทาย การอำลา
การสนทนาแบบสบาย ๆ ก่อนเริ่มการประชุม
หรือพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
ศาสตราจารย์ Jessica Methot จากคณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ และมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส กล่าวว่า
การพูดคุยเรื่องสัพเพเหระในออฟฟิศช่วยทำให้บทสนทนาในงาน
ที่มีข้อโต้แย้งก่อนหน้าผ่อนคลายลง ช่วยปรับปรุงอารมณ์ของคนทำงาน
สร้างบรรยากาศเชิงบวก ลดความรู้สึกแบ่งแยก
อย่างไรก็ดี สิ่งนี้อาจใช้ไม่ได้กับกลุ่มคน Introvert
ที่มีแนวโน้มมองว่า smalltalk เป็นเรื่องไร้สาระ
ดูดพลังงาน และสร้างความเหนื่อยล้า
ด้วยเหตุนี้ จึงเลือกที่จะเก็บตัวอยู่คนเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุย
ซึ่งผู้ที่สามารถปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางสังคมเช่นนี้ได้
จึงจะรู้สึกถึงผลประโยชน์จากการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
อ้างอิง : Academy of Management Journal