กินดี...ปีใหม่...ห่างไกลโรค

ไม่มีคำอวยพรหรือของขวัญใดๆ จะมีค่าเท่ากับ การมีสุขภาพดี

ปีใหม่นี้เรามาตั้งเป้าหมายเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง โดยเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นแบบใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้นกันดีกว่า

ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเช่นนี้ นอกจากการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวแล้ว คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้รับประทานอาหารอร่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งตารอไม่แพ้กัน บางคนอาจถือเอาช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เป็นโอกาสตามใจปากตัวเอง แต่อย่าลืมว่าพฤติกรรมการกินอาหารของแต่ละคน เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ผู้ที่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ มักพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ ผู้ที่ชอบกินอาหารดิบไม่สุก อาจก่อให้เกิดมะเร็งทางเดินน้ำดี และผู้ที่ชอบทานรสหวานจัดก็จะส่งผลให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น สำหรับทุกๆ ท่านที่ต้องการรักษาสุขภาพ การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มตามหลักโภชนาการ จะช่วยป้องกันให้ห่างไกลจากโรคภัยได้ดีที่สุด

เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสุขภาพที่ดี เรามาเริ่มต้นกินอย่างสร้างสรรค์ โดยมีหลักการง่ายๆดังนี้

1.บริหารจัดการอาหารในแต่ละวัน หากรู้ว่าในตอนเย็นจะต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ก็ควรปรับปริมาณลดอาหารของในมื้อเช้าและมื้อกลางวันลดลง เพื่อให้ปริมาณพลังงานที่ได้รับไม่มากเกินไปในแต่ละวัน หรือหากไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน หากวันนี้ทานอาหารมากกว่าปกติ ในวันรุ่งขึ้นก็ควรทานให้น้อยลง แต่ไม่ควรอดอาหารโดยเด็ดขาด เพราะจำทำให้หิวและจะส่งผลให้เกิดการกินเพิ่มในมื้ออื่นๆ

2.ดื่มน้ำก่อนกินอาหาร การดื่มน้ำเปล่าก่อนอาหารในประมาณ 1 – 2 แก้ว จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้กินอาหารได้น้อยลง

3.จิบน้ำบ่อย ๆ ระหว่างมื้ออาหาร จะทำให้เราใช้เวลาในการทานอาหารแต่ละคำนานขึ้น จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

4.จำกัดชนิดและปริมาณอาหารให้เหมาะสม เลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือมีแป้งเป็นส่วนประกอบมาก อาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมาก ขนมหวาน เลือกอาหารพลังงานต่ำ เช่น อาหารประเภทต้ม นึ่ง ย่าง ยำ นอกจากนี้ก็ควรทานอาหารแต่ละชนิดในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

5.เลือกตักอาหารจำพวกผัก ผลไม้ หรือถั่วเป็นหลัก เพราะอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ดี นอกจากจะช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารแล้ว ไฟเบอร์ในอาหารยังทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นด้วย

6.พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกรรมวิธีปรุงแต่ง อย่าง อาหารกระป๋อง เนื้อบดไส้กรอก เป็นต้นเพราะจะมีไขมัน เกลือ ผงชูรสมาก ไม่เหมาะสมในผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต หรือความดันโลหิตสูง

7.ไม่ละเลยการออกกำลังกาย ในช่วงเวลาวันหยุดแบบนี้หลายคนมักฉลองกันอย่างสนุกสนาน จนลืมกิจวัติที่เคยทำอย่างออกกำลังกายไป ดังนั้นหากรู้ตัวว่าจะมีกิจกรรมงานสังสรรค์ให้จัดระเบียบเวลาการออกกำลังกายตนเองให้ดี ไม่ควรข้ามวันหรืองดกิจกรรมออกกำลังกายไปเลย

8.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง โดยปกติแล้วภายในงานเลี้ยงสังสรรค์จะมากไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีปริมาณน้ำตาลมาก และให้พลังงานสูง นอกจากนี้ การดื่มชา กาแฟ ก็ควรเติมน้ำตาลหรือครีมเทียมในปริมาณน้อยที่สุด ดีที่สุดควรดื่มเครื่องดื่มต่างๆเหล่านี้ในปริมาณที่น้อย หรือ หากเลี่ยงได้จะดีที่สุด และควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักจะดีกว่า

9.จัดระเบียบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแบบไม่ทำร้ายสุขภาพ คนที่ไม่เคยดื่มไม่แนะนำให้ดื่มเลยจะดีที่สุด แต่สำหรับคนที่ดื่มอยู่แล้วนั้น การดื่มที่ไม่ทำร้ายสุขภาพมากจนเกินไป คือ การดื่มมาตรฐาน ในกรณีนี้คือ ดื่มแบบพอประมาณ ได้แก่ ใน 1 สัปดาห์ งดดื่มอย่างน้อย 2 วัน ใน 1 วันไม่ควรดื่มเกิน 3 ดื่มมาตรฐาน ส่วนปริมาณในแต่ละดื่มมาตรฐาน คือ ไวน์ 140 ซีซี, เบียร์ 330 ซี, สุราที่ได้จากการกลั่น 40 ซีซี พึงระลึกว่า แอลกอฮอล์มีแต่ผลเสียต่อสุขภาพไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็ส่งผลต่อหัวใจ สมอง และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย นอกจากนั้นข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์คือ เมื่อดื่มแล้วจะขาดการควบคุมตนเอง ทำให้ดื่มในปริมาณมากและมากเกินกว่าที่แนะนำ สิ่งที่ดีที่สุดคือการควบคุมแต่แรก และไม่ควรที่จะคิดงดดื่มแล้วมาดื่มครั้งหนึ่งในวันเดียวปริมาณมากๆ เพราะการดื่มแบบพอประมาณที่ไม่ทำร้ายสุขภาพมากนัก จะต้องดื่มแบบควบคุมปริมาณในแต่ละวัน

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่าของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองและคนที่คุณรักในช่วงเทศกาลเช่นนี้คือการส่งต่อสุขภาพที่ดีให้แก่กันและกัน

“อโรคยา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ