มั่นคงแก็ดเจ็ท ขายหูฟัง รายได้ 274 ล้าน ระดับพระกาฬพอไหม

สำหรับคนที่ชอบหูฟังแล้ว เชื่อว่าชื่อ มั่นคงแก็ดเจ็ท เป็นหนึ่งตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นึกถึง ในฐานะร้านขายหูฟังระดับพระกาฬที่รวมหูฟังจากหลากแบรนด์ตั้งแต่รุ่นโลว์เอนด์ไปจนถึงซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่มีให้เลือกตามความชอบและสตางค์ที่มีอยู่ในกระเป๋า

แล้วเคยสงสัยไหม มั่นคงแก็ดเจ็ทมีรายได้เท่าไร

เมื่อดูรายได้จากกระทรวงพาณิชย์ จะพบว่า มั่นคงแก็ดเจ็ทมีรายได้ในปีที่ผ่านมามากถึง 274 ล้านบาท เป็นรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี แล้วทำไมมั่นคงแก็ดเจ็ทถึงเติบโตอย่างน่าสนใจ

สิ่งที่ทำให้มั่นคงแก็ดเจ็ทเติบโตมาจาก

1. วางภาพลักษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านหูฟัง

ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ทไม่ได้วางตัวเองเป็นร้านจำหน่ายหูฟัง แต่วางภาพลักษณ์ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหูฟัง ที่คัดเลือกหูฟังเฉพาะรุ่นที่ให้คุณภาพเสียงในการฟังที่ดี สมราคา จากแบรนด์ต่างๆ มาจำหน่าย และสื่อสารไปยังผู้สนใจผ่านการรีวิว คลิปแนะนำ พนักงานหน้าร้านที่สามารถให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าแต่ละชนิดที่ลูกค้าสอบถามได้

นอกจากนี้หูฟังที่เข้ามาจำหน่ายในร้านได้ทุกรุ่นจะมีการเขียนรีวิวสินค้าในเว็บไซต์ MunkongGadget เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าไปศึกษาคุณสมบัติเด่นของหูฟังแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อหูฟังจากหน้าร้านและออนไลน์

สิ่งที่ทำให้มั่นคงแก็ดเจ็ทวางภาพลักษณ์ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหูฟัง มาจากจุดเริ่มต้นของกมล พูลทรัพย์ หนึ่งในเจ้าของร้าน มั่นคงแก็ดเจ็ท เป็นผู้ที่หลงใหลในการฟังเพลงผ่านหูฟัง และแสวงหาหูฟังคุณภาพจากต่างประเทศเพื่อมาใช้งานส่วนตัว

ซึ่ง 10 กว่าปีที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่มีหูฟังหลากแบรนด์เข้ามาทำตลาดมาก หูฟังที่เขาต้องการไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย เขาจึงต้องสั่งผ่านเว็บไซต์อีเบย์เพื่อส่งมายังประเทศไทย โดยหูฟังที่เขาสั่งมาคือ แบรนด์ KOSS รุ่น KSO35

และเมื่อได้รับหูฟังจากอีเบย์เขาได้ทดลองฟังแล้วรู้สึกว่ามันเป็นหูฟังที่ดี จนอยากบอกต่อในมุมของผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านหูฟัง โดยเขาเลือกที่จะรีวิวผ่านกระทู้ในพันทิป ใช้นามแฝงว่า นายมั่นคง

ผลปรากฏว่าจากรีวิวกระทู้นั้นได้มีผู้สนใจฝากซื้อหูฟัง KSO35 กันอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงเวลานั้นการสั่งซื้อสินค้าผ่านอีเบย์ หรือเว็บไซต์ต่างประเทศเป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการสั่งซื้อ โดยเขาได้บวกกำไรในการสั่งซื้อเข้าไปเล็กน้อย

หลังจากหูฟังรุ่น KSO35 ได้รับการตอบรับดี เขาได้ทดลองสั่งหูฟังรุ่นอื่นๆ มาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ด้วยการโพสต์ขายในอีมาร์เก็ตเพลส ผ่านการรีวิวสินค้าจริงดึงดูดให้กลุ่มผู้สนใจหูฟังเกิดความอยากได้เสมอมา

จนธุรกิจเริ่มพอไปได้ ในปี 2549 เขาทาบทามอัฐพงษ์ เอี่ยมไพบูลย์ เป็นหุ้นส่วน เปิดร้านมั่นคงแก็ดเจ็ท ด้วยการเช่าพื้นที่ในพันทิพย์ งามวงศ์วาน ล็อกหนึ่งจากราคาค่าเช่าที่ถูก และตั้งชื่อว่ามั่นคงแก็ดเจ็ทเพื่อเป็นหน้าร้านให้ลูกค้าเข้ามารับสินค้าแทนการนัดเจอตามสะดวกเหมือนในอดีต จนในปัจจุบัน มั่นคงแก็ดเจ็ทมีหน้าร้านที่เป็นออฟไลน์ทั้งหมด 5 สาขา ด้วยกัน

2. ศูนย์รวมหูฟัง ที่มีหูฟังให้ทดลองฟังทุกรุ่น

หลังจากที่มั่นคงแก็ดเจ็ทมีร้านเป็นของตัวเอง 2 คู่หูได้วางจุดขายหลักของร้านคือศูนย์รวมหูฟังที่มีหูฟังให้เลือกหลากหลายแบรนด์กว่า 1,000 รายการ และมีหูฟังให้ทดลองฟังทุกรุ่น โดยเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์เสียงจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

แต่การมีหูฟังให้ทดลองฟังก็เป็นดาบสองคมให้กับธุรกิจด้วยเช่นกัน เพราะมันคือทุนทางธุรกิจ และมีลูกค้าบางกลุ่มที่เซนซิทีฟด้านราคา เข้ามาสอบถามข้อมูล ทดลองหูฟัง และสั่งซื้อสินค้าจากร้านที่จัดโปรโมชั่นสินค้าชนิดนี้แทน

3. พนักงานไม่ฮาร์ดเซลส์

กมลมองกว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จะทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากมั่นคงแก็ดเจ็ทไม่วันนี้ก็วันหน้า

ทำให้ในร้านมั่นคงแก็ดเจ็ทเป็นร้านที่ค่อนข้างปล่อยให้ลูกค้าเข้ามาทดลองสินค้าได้เต็มที่ โดยพนักงานมีหน้าที่แนะนำเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าสอบถาม หรือต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น

4. ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์

มั่นคงแก็ดเจ็ทได้ชื่อว่าเป็นร้านที่เกิดมากับการขายออนไลน์ แม้ในวันนี้จะมีหน้าร้านก็ตาม ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการขายสินค้าผ่านออนไลน์ เพราะสามารถเปิดขายให้กับลูกค้าไปได้ทั่วประเทศ ในต้นทุนที่ต่ำ

แต่ปัญหาของการขายผ่านช่องทางออนไลน์ของมั่นคงแก็ดเจ็ท คือ ลูกค้าไม่สามารถเช็กสินค้าที่ส่งมาได้ทันที เพราะถ้าเกิดปัญหากับสินค้า (แม้จะเปิดแกะกล่องหน้าพนักงานส่งพัสดุก็ตาม) จะต้องส่งสินค้ากลับไปเพื่อให้พนักงานตรวจเช็กความผิดพลาดให้ก่อนที่จะส่งสินค้ากลับมากับลูกค้าอีกครั้ง

5. ระบบ CRM ย่อยๆ

มีระบบสมัครสมาชิกที่บันทึกการซื้อสินค้า เพื่อใช้ในการเช็กระยะประกันแทนการเก็บใบเสร็จ หรือใบรับประกันในรูปแบบเดิมๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นดาต้าเบสต่อยอดนำเสนอสินค้าอื่นๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

การเติบโตของมั่นคงแก็ดเจ็ทในวันนี้ไม่ได้มาจากความบังเอิญเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความรู้จริงในสิ่งที่ขายด้วย

–

อ่านคอนเทนต์การตลาด อ่าน MarketeerOnline.co